Thursday, May 15, 2014

** Penang 2014 ** Day 4 Georgetown & Museum


วันสุดท้ายของทริปนี้ เป็นการเก็บตกเดินในเมือง และเป้าหมายเป็นที่  Pinang Peranakan Mansion จาก Blue Mansion สามารถเดินเลาะถนนเรียบชายฝั่งทะเลมาได้เรื่อยๆ ตามเส้นทาง Esplanade Walk จะผ่านสถานที่สำคัญหลายที่ เช่น St.George Church Penang Museum แต่เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดสถานที่ราชการหลายที่เลยปิด  

Town Hall
ระหว่างทางเดินจะผ่านจุดที่น่าสนใจที่เกี่ยวข้องกับเมืองไทยคือ บ้านตระกูล ณ ระนอง

บ้าน ณ ระนอง


War memorial

ตรงจุดหัวมุมถนน ใกล้ War memorial จะมีป้ายแสดงถึงประวัติของที่ตั้ง ของบ้าน ณ ระนอง --- ซึ่งก็คือบ้านจักรพงษ์ และ บ้านอัษฎางค์ ... พยายามเดินหาที่ตั้งของบ้านที่บอกตำแหน่งอยู่บริเวณนี้แต่หาไม่เจอ เข้าใจว่าปัจจุบันน่าจะไม่เหลือแล้ว (Where is Metropole Hotel & Asdang House ?)




ระหว่างทางมีสวนเด็กเล่นให้แวะหลบแดด
สวนเด็กเล่น

Fort Cornwallis



เดินเลาะตามสนามหญ้ามาสุดทาง ก็จะพบกับป้อม Cornwallis ตั้งชื่อตามผุ้ปกครองเมืองอินเดีย ที่มีส่วนในการตั้งรกรากของบริษัทอีสอินเดียของอังกฤษในปีนัง

อาคารเก็บดินปืน



ค่าเข้าป้อมคนละ 2 RM ด้านในเป็นป้อม ปืนใหญ่ และมีอาคารเก็บดินปืน และในส่วนกักกันนักโทษ ที่ยังหลงเหลืออยู่ มีเนินดินที่เดินขึ้นไปบนกำแพงได้ สภาพด้านในมีพื้นที่ให้เด็กวิ่งเล่นได้แต่แดดแรงมาก

ถึงตอนนี้อากาศเริ่มร้อมมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังดีที่มีลมพัดตลอดเวลาทำให้ไม่รู้สึกอบอ้าวมากนัก

ออกจากป้อมจะมี Food Court ขนาดเล็กตั้งอยู่แวะดื่มน้ำ ทานของว่างได้  ที่ Food Court นี้มีอาหารแนะนำ 2 อย่าง คือ Mee Goleng และ Coconut Shake ได้ลองกินน้ำมะพร้าวปั่นโปะไอครีมวะนิลา หวานชื่นใจ

Queen Victory Clock Tower

Pinang Peranakan Mansion




จาก Fort Cornwillis เดินผ่านหอนาฬิกา Queen Victoria มาสักนิดก็จะพบร้านอาหาร Old Town White Coffee แวะทานอาหารกลางวันที่จุดนี้ได้     จากร้านอาหารเดินมาอีกนิดก็จะถึงพิพิธภัณฑ์แห่งสุดท้ายที่จะแวะคือ Pinang Peranakan Mansion ใช้เวลาที่ Pinang Peranakan นานพอสมควร มีของให้ดูมากมาย

หลังจากเที่ยวชม Mansion จนถึงเวลาก็เดินทางกลับไปลง Blue Mansion คราวนี้นั่งรถเมล์สาย CAT ที่นั่งฟรีไปลง

จากนั้นก็เก็บของเดินทางไปยัง Komtar เพื่อต่อรถกลับไปยัง Airport ขากลับไป Airport คราวนี้นั่งรถสาย 102 ที่ว่างมากกว่า 401 แม้วิ่งระยะทางไกลกว่าแต่ได้นั่งจนถึง Airport

ที่ Airport ยังได้แวะร้าน Old Town White Coffee อีกรอบก่อนกลับกรุงเทพ เป็นอันจบ Trip Penang


@Penang Airport

อาหาร

ร้านอาหาร Old Town White Coffee มีสาขามากมายในมาเลเซีย ที่ปีนังก็มีหลายสาขา ใน George Town จะอยู่ในตึกแถวบริเวณวงเวียนหอนาฬิกา Queen Victoria  รสชาติถูกปากมาก ยังไม่รวมกาแฟนมรสเข้มข้น ราคาไม่แพง เสร็จแล้วยังแวะซื้อ กาแฟผง ชานมผง ติดมือกลับบ้านได้







ข้าวหน้าเนื้อ


BBQ checken rice


Hor Fun

เดินทาง

Pinang Peranakang Mansion -- Blue mansion   -- CAT -- Free  or (203, 104 -- 1.4 RM)
Blue Mansion --- KOMTAR --- CAT  --- Free
KOMTAR -- Airport ---- 102 --- 2.7 RM

ค่าธรรมเนียม

Fort Cornwillis --- 2RM
Pinang Peranakan Mansion  --- 20RM

Tuesday, May 13, 2014

Pinang Peranakan Mansion, Penang, Malaysia



เสน่ห์ของปีนังในย่านเมือง Georgetown เห็นจะได้แก่ตึกบ้านเรือน ที่ผสมผสานระหว่างลักษณะแบบจีนและความเป็นตะวันตก

Peranakan Mansion เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในเมือง Georgetown ปีนัง ที่ยังรักษาสภาพดั้งเดิมของไว้ได้เป็นอย่างดีถือเป็น Highlight อีกแห่งของการมาเที่ยวปีนังเลย



Peranakan หมายถึงกลุ่มคนชาวจีนที่อพยพมาจากจีนแผ่นดินใหญ่มาตั้งรกรากอยู่ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เช่นมาเลย์ อินโดนีเชีย โดยเรียกขานตนเองว่า "Nyonya Baba"  ที่ภูเก็ตก็มีกลุ่มชนดังกล่าวเช่นกันเรียกว่า Phuket Baba "ภูเก็ต บาบ๋า"



เจ้าของบ้านเป็นกัปตันเดินเรือชาวจีนชื่อ Chung Keng Quee ที่จงใจสร้างบ้านนี้ตามแนว Peranakan ที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมจีนและตะวันตก ตัวบ้านได้รับการปรับปรุงและกลายมาเป็น พิพิธภัณฑ์ Peranakan ในปัจจุบัน




บริเวณบ้านเป็นอาคาร 2 ชั้นพื้นด้านล่างปูกระเบื้อง ด้านบนเป็นพื้นไม้ กลางบ้านเปิดโล่งไม่มีหลังคาคลุม ตัวบ้านยังคงรักษาสภาพได้เป็นอย่างดี

ตัวอาคารหลักเป็นที่จัดแสดงของประดับ ถ้วยชามจากเมืองจีน งานแก้วคริสตัล งานเหล็กหล่อโบราณ งานเฟอร์นิเจอร์โบราณที่หาดูได้ยากในปัจจุบัน โดยเฉพาะงานโครงเหล็กหล่อ ที่ทำกั้นทางเดินในพื้นที่เปิดโล่งชั้น 2 ทำได้สวยงานมาก




สภาพห้องนอนยังคงเก็บรักษาเครื่องใช้ได้เป็นอย่างดี มองเห็นบ้านเรือนทำให้เกิดจิตณาการไปว่าสมัยก่อน ผู้อยู่อาศัยที่นี่คงใช้ชีวิตอย่างมีความสุข มีภาพถ่ายโบราณของครอบครัวที่เคยอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ติดตามผนังตลอดทั้งหลัง




ด้านข้าง มีทางเดินสู่พิพิธภัณฑ์อีกแห่งที่ตัวอาคารเชื่อมโยงในพื้นที่เดียวกัน เป็นพื้นที่แสดงในห้องกระจกติดแอร์ มีพนักงานยืนเฝ้าตลอด เป็นการแสดงของประดับพวกเครื่องทอง เครื่องเงิน  รวมทั้งเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เครื่องประดับราคาแพง

ห้องครัว

นอกจากนี้ด้านหลัง ยังเก็บรักาาสภาพของห้องครัวโบราณแบบดั้งเดิม หม้อโถ ชาม ปิ่นโต โบราณ





ทางเชื่อมระหว่างอาคาร ประดับด้วยอิฐทางเดิน กระถางต้นไม้ และบ่อน้ำเล็กๆ แต่ก็มีส่วนการจัดสวนประดับทางเดินอิฐ เลาะเดินมาด้านหลังเป็นทางเดินไปสู่ศาล


รูปปั้นบ่อน้ำ




ที่ชอบของบ้านในปีนังคือ โถงกลางบ้าน มักเปิดเป็นที่โล่ง แดดส่อง ฝนตกได้ แต่พื้นปูหิน หรือ บางที่เห็นจัดเป็นบ่อน้ำ ทำให้บ้านกลายเป็นสวนไปในตัว

โถงบรรพบุรุษ
โถงด้านข้างตัวบ้าน เป็นโถงบรรพบุรุษของบ้าน (Ancestral Hall) มีรูปปั้น และป้ายชื่อของบรรพบุรุษของบ้านแห่งนี้ รวมถึงรูปปั้นของกัปตัน  Chung Keng Kwee



เสน่ห์ของการเดินชม Peranakan Mansion เห็นได้แก่รายละเอียดของเครื่องใช้ที่มีการเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี หากต้องการเดินเที่ยวให้ได้อรรถรสต้องใช้เวลา 1-2 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย

Ticket

ตั๋วราคา 100RM รวมค่าเข้าชม

Location



Monday, May 12, 2014

Blue Mansion, Penang, Malaysia





Blue mansion เป็นชื่อที่ใช้เรียก Cheong Fatt Tze Mansion ซึ่งปัจจุบันคือโรงแรมที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองปีนัง




Cheong Fatt Tze เป็นชื่อของคหบดีชาวจีนที่อพยพมากจากเมืองจีนแบบเสื่อผืนหมอนใบมาสู่เมืองปีนัง ก่อร่างสร้างตัวจนเป็นมหาเศรษฐีครอบครองธุรกิจที่ดินในหลายประเทศในแถบเอเชียทั้ง มาเลเชีย สิงคโปร์ ฮ่องกง อินโดนีเชีย และที่ปีนัง




Blue Mansion เป็นส่วนหนึ่งในเขตพื้นที่มรดกโลกของเมือง Georgetown ในรัฐปีนัง ตัวอาคารได้รับรางวัลมากมาย เช่น  2000 UNESCO 'Most Excellent' Heritage Conservation Award, หรือ Lonely Planet จัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสิบ Mansion ของโลก (The greatest mansions and grand houses)



Blue Mansion เป็นโรงแรมขนาด 18 ห้องนอน มีชื่อเรียกแต่ละห้องตามทีมการตกแต่งและขนาด ช่วงตอนที่เข้าพัก (2014) บางส่วนกำลังมีการปรับปรุงเลยมีแค่ 9 ห้องชั้นล่างที่ให้เข้าพักได้


ชั้นบน

การประดับตบแต่งโรงแรมยังคงรูปแบบแต่เดิมของแมนชั่น ที่ผสมผสาน ระหว่างความเป็นจีนและตะวันตกอย่างลงตัว จะเห็นลวดลายไสตร์จีนบนกระเบื้องนำเข้าจากอังกฤษ  ลวดลายมู่ลี่แบบโบราณ โต๊ะเก้าอี้ไสตร์ตะวันตก




จุดเด่นของตัวอาคารคือ สีฟ้า จากประวัติของบ้านทราบว่านำเข้ามาจากอินเดีย เรียกว่า Indigo Blue เป็นสีฟ้าที่ทำให้รู้สึกเย็น สบายตา นอกจากสีฟ้าสะดุดตาแล้ว คงเป็นลวดลายงานโมเสกกระเบื้องดินเผาประดับตามขอบหลังคา และกระจังของตัวอาคาร เป็นดินเผาที่มีวิธีทำเหมือนกระเบื้อง ถ้วยชาม เครื่องปั้นดินเผาของจีน ช่างฝีมือต้องตัดเป็นชิ้นเล็กๆ เลือกสีและลวดลายมาประดับตามที่ออกแบบไว้ ช่างฝีมือเหล่านี้นำมาจากจีนแผ่นดินใหญ่โดยเฉพาะ



งานเหล็กของตัวอาคารก็ทำได้อย่างลงตัว เป็นลวดลายโปร่งตาที่กลมกลืนเข้ากับตัวอาคาร เหล็กหล่อเหล่านี้ เป็นงานฝีมือจากประเทศทางตะวันตก บางชิ้น นำมาจาก Glasgow, Scotland




Highlight อีกจุดของ Blue Mansion คือ บันไดวน เชื่อมต่อระหว่างชั้นล่างกับชั้นบน ทำด้วยโครงเหล็กวนเป็นเกลียวนำไปสู่ด้านบน (cast-iron spiral staircases) ตัวบันไดเป็นลวดลายฉลุเคยใช้เป็นจุดถ่ายทำหนังหลายเรื่อง เช่น Indochine




ที่นี่ไม่มีห้องอาหาร แต่ใช้โถงกลางตัวอาคาร ที่เปิดเป็นพื้นโล่งตามสไตร์อาคารในปีนัง รอบๆพื้นที่โล่งจัดเป็นพื้นที่รับประทานอาหารเช้า ที่เตรียมอาหาร ของทางโรงแรม ที่รวมอยู่ในค่าที่พักอยู่แล้ว




ตัว Mansion ไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก แต่ด้วยการออกแบบที่มีพื้นที่เปิดโล่งในตัวอาคารหลายจุด ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด เครื่องประดับของโรงแรม โคมไฟ มู่ลี่ โอ่งมังกร โต๊ะนั่ง โซฟา การจัดวางไม้บอนไซภายในอาคาร มีความกลมกลืน จนมีความรู้สึกเป็นบ้านมากกว่าโรงแรม



โรงแรมไม่มีสระว่ายน้ำ แต่มีสระน้ำขนาดเล็กขั้นกลางระหว่างพื้นที่อาคารด้านหน้า ซึ่งเป็นโถงล็อบบี้ของรงแรม และ ส่วนอาคารที่พักด้านหลัง


แม้ว่าตัวอาคารทั้งหมดมีขนาดไม่ใหญ่ แต่มีรายละเอียดการตกแต่งมากมาย หลายจุด ลวดลายการแกะไม้ที่แปลกตา มู่ลี่ บานหน้าต่าง บานเกร็ด สามารถเดินดูได้ทั้งวัน

พิพิธภัณฑ์




นอกจากพื้นที่ห้องพักแล้ว โถงชั้น 2 ยังถูกจัดให้เป็นที่แสดงนิทรรศการความเป็นมาของ Mansion ด้วย บางส่วนยังมีการซ่อมแซมอยู่ การเข้าชมในส่วนนี้เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้ วันละ 3 รอบ 11.00 13.00 และ 15.30 ค่าชมคนละ 16 ริงกิต



Blue Mansion แต่เดิมถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นบ้านภรรยาหลายคนของ Cheong Fatt Tze  รวมถึงสุดที่รักคนที่ 7 (จากภรรยา 9 คน) ในพื้นที่พิพิธภรรณฑ์จึงมีส่วนที่เป็นข้าวของเสื้อผ้า และประวัติของภรรยาคนนี้โดยเฉพาะ



ข้อดีของแขกที่พักที่นี่คือ สามารถเดินชมอาคารได้ตลอดแม้เป็นเวลาเย็นค่ำแล้วก็ตาม ค่อยๆอ่านประวัติของบ้านแห่งนี้ ประวัติผู้ก่อสร้าง ความเป็นมา ความผูกพันกับประวัติของปีนัง ค่อยๆเดินอ่านไปไม่ต้องรีบ พนักงานบริการมีไม่กี่คน ระหว่างที่อยู่ในโรงแรมแทบจะไม่เห็นพนักงานเหล่านี้ยกเว้นเดินไปขอบริการที่ฟร้อนเดส




Blue Mansion ก่อนที่จะมาถึงทุกวันนี้ มีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง ยุครุ่งเรือง ทรุดโทรม ขายทิ้งและถูกปรับปรุงกลับขึ้นมาใหม่ บางช่วงเวลาดูจากในรูปแล้ว ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นบ้านหลังเดียวกัน การบูรณะใช้เวลานานกว่า 10 ปี จนถึงทุกวันนี้ก็ยังคงมีการบูรณะปรับปรุงอยู่อย่างต่อเนื่อง

ห้องพัก

ห้องพักที่นี่มีขนาดกว้างขวาง มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกพร้อม แต่จุดเด่นคงเป็นเพดาน ที่มีความสูงมาก ทำให้ห้องดูโอ่โถงสบาย ราคาที่พักคืนละประมาณ 400 - 800 ริงกิตขึ้นกับช่วงเวลา และขนาดห้อง ราคารวมอาหารเช้า

ห้องบัตตาเวีย







อาหารเช้าของที่นี่ไม่ใช่บุฟเฟ่แต่เป็นแบบเมนูให้เลือก แม้ว่าเป็นสไตร์ตะวันตก แต่ยังแทรกความเป็นเอเชียอยู่ให้เห็น มีเตาถ่านย่างขนมปังให้ทาน

อาหารเช้า


Location

รถเมล์สาย 103, 204, 502 and CAT




** Penang 2014 ** -- Day 3 -- Kek Lok Si Temple & Blue Mansion

Little Children on a Bicycle
ช่วงเช้า วันนี้เดินเล่นถ่ายรูป Street Arts ที่มีอยู่รอบบริเวณที่พัก หลายรูปเดินผ่านหลายรอบแต่ยังไม่ได้แวะเพราะมีคนรอคิวถ่ายรูปยาวตลอดเวลา

minions

ทั่วเมือง Georgetown จะมีภาพวาด Street Arts ตามกำแพง ตึก แทรกอยู่ทั่วเมือง  .... เป็นผลงานของเมืองหลังจากที่ได้รับเป็นเมือง UNESCO World Heritage ก็มีการเชิญศิลปินหลายคนมาสร้างผลงานตามกำแพงเก่า เปลี่ยนสภาพจากกำแพงเก่าๆ ให้กลายเป็นการ์ตูนน่ารัก ไปได้ ... ภาพของนาย Ernest Zacharevic น่าจะเป็นภาพในชุดแรกๆที่ตอนนี้กลายเป็นจุดเด่นของเมืองไปแล้ว


หลังจากนั้น ก็นั่ง CAT ต่อไปลงยัง Komtar ที่เป็นเหมือนท่ารถกลางเมือง Georgetown เพื่อขึ้นไปชมวิวของเมือง แต่ปรากฏว่า Komtar Tower กำลังปรับปรุงต้องรอไปอีก 2-3 ปี .... ไว้คราวหน้าจะแวะมาอีกครั้ง

Kek Lok Si


ทางขึ้นวัด Kek Lok Si
ช่วงบ่ายไปเที่ยววัด Kek Lok Si ต้องนั่งรถเมล์ออกไปนอกเมือง มีรถเมล์หลายสายจาก Komtar  ที่ไปได้ 201, 203, 204 เลือกเอาที่มีคนไม่แน่นมากเนื่องจากต้องใช้เวลาเดินทางนานราว 1 ชั่วโมง .... ส่วนป้ายรถเมล์ที่ลงต้องสังเกตให้ดี เพราะไม่มีป้ายบอกชื่อวัด เป็นป้ายเล็กๆเท่านั้น

ทางเดินขึ้นวัดก็เป็นช่องทางเดินเล็กๆ ขนาบด้วยร้านค้าตลอดแนว

สระเลี้ยงเต่า
ทางขึ้นวัดจะเป็นทางเดินขึ้นเขา ทางเดินขึ้นเขาจะผ่านสระเลี้ยงเต่า มีศาลานั่งพักให้อาหารเต่าได้ วัดนี้คนไทยเลยเรียกวัดเขาเต่า


เจดีย์หมื่นพุทธ
วัด Kek Lok Si ถือเป็นวัดจีนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในปีนัง มีสิ่งก่อสร้างหลายแห่งทั่วทั้งบริเวณวัด แบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกเป็นบริเวณ เจดีหมื่นพุทธ และวิหารหลัก

ช่วงที่ 2 เป็นบริเวณรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่ ต้องขึ้นลิฟท์แก้ว คนละ 8RM


เจ้าแม่กวนอิมบนยอดเขา

View from top of Kek Lok Si

บนยอดเขาจะมองเห็นวิวเมืองปีนังได้เป็นมุมกว้าง


วิหาร และ รูปปั้นหิน 12 ราศี
วัด Kek Lok Si มีบริเวณกว้างขวางมาก ใช้เวลาเที่ยวชมได้ อย่างน้อยครึ่งวัน  ส่วนใหญ่คนที่มาเที่ยววัด Kek Lok Si มักจะไปเที่ยว Penang Hill ด้วยเนื่องจากอยู่ใกล้กัน แต่วันนี้เวลาเรามีไม่มากเลยข้าม Penang Hill ไป เพื่อที่จะกลับเข้าไปในเมือง

Street Walk

จากวัด Kek Lok Si เดินมาขึ้นรถเมล์ ที่ป้ายเดิมที่ลง เนื่องจาก รถเมล์ที่นี่วิ่งเป็นวงกลม นั่งรถเมล์สาย 203 ไปลงสุดสายที่ Weld Quay เป็นท่ารถสุดทางติดทะเลในเมือง Georgetown ค่ารถ 2.7 RM ต่อคน

พอดีช่วงเวลาที่กลับมาถึงในเมืองเป็นช่วงเย็น รถในเมืองติดมาก เลยเดินเล่นในเมืองเพื่อไปยัง  Blue Mansion ที่พักเย็นนี้แทน



ปรากฏว่าเส้นทางเดินใช้เวลาไม่นาน เร็วกว่านั่งรถในช่วงเวลานี้ด้วยซ้ำ

ถนนสายที่เดินผ่านก็ ผ่านตึกสวยงามหลายที่ รวมทั้ง Street Art ที่เดินหาย่าน Armenian Street ไม่เจอเช่น Little Girl in Blue  หรือ Camera Museum ที่ติดอันดับ Top สถานที่แนะนำใน Trip-advisor ... Hainan Temple 

Little Girl in Blue

Steel Rod Scruptures@Lorong Stewart
Camera Museum
Hainan Temple
ตลอดทางเดิน ตัดผ่านกลางเมือง Georgetown ไปยังอีกฝากเมือง ผ่านตรอด ซอกซอย เล็กๆ ที่ไม่คับคั่งเหมือนถนนใหญ่  ใช้เวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็ถึงจุดหมายที่พักคืนนี้

Blue Mansion


Blue Mansion
พอมาถึง Blue Mansion ฝนตกลงมาพอดี  เลยไม่ต้องไปไหนไกล เดินเล่นอยู่ในที่พัก  พอดีเป็นช่วง Weekday ทำให้มีแขกพักอีกเพียง 2 ห้อง ...ปกติหากเป็นคนภายนอกก็จะเสียค่าเข้าชมคนละ 12RM แต่สำหรับแขกที่พักก็เดินชมอาคารได้อย่างสบายใจ

Blue Mansion Review

Cat@Blue Mansion
สำหรับมื้อเย็นก็ไม่ต้องไปไหนไกล ติดกับ Blue Mansion มี Food Court ขนาดใหญ่ Red Garden Food Paradise เดินไปกินได้ บรรยากาศก็เหมือน Food Court ของปีนังมีวงดนตรีเล่นเพลงกล่อมลูกค้าด้วย

ที่พัก

Blue Mansion   ---  400 - 800 RM ขึ้นกับช่วงเวลาและประเภทห้องพัก รวมอาหารเช้า


Admission Fee

ลิฟท์แก้ว -- Kek Lok Si -- 8 RM

เดินทาง

Georgetown (Armenian Street) -- Blue House Mansion  -------  CAT --- Free
Blue House Mansion -- KOMTAR --- CAT --- Free
KOMTAR -- Kek Lok Si ---- 201, 203, 204  --- 2.7 RM
Kekloksi -- Weld Quay ----201, 203, 204  --- 2.7 RM