Friday, October 12, 2018

Kanamaruza Theater, Kotohira โรงละครที่เก่าที่สุดในญี่ปุ่น

Kanamaruza Theater, a traditional kabuki theater โรงละครเก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น

โรงละคร Kabuki นี้มีอายุกว่า 400 ปี เป็นโรงละครที่สร้างขึ้นเพื่อใช้แสดงละคร traditional performance ที่เน้นเรื่องการแต่งกาย แสดงอารมณ์ผ่าสายตาและท่าทาง ที่ดูเข้าใจยากมาก แต่ก็สวยแปลกตามแบบของญี่ปุ่น ละครคาบูกิได้รางวัลว่าเป็น UNESCO Intangible Cultural Heritage คาบูกินี้ เป็นที่นิยมมากของคนรวย หรือ คนชั้นสูง โดยเฉพาะในสมัยเฟื่องฟูของญี่ปุ่น คือ  Edo Period 
ที่นั่งชั้นพิเศษ Royal Seat อยู้ตรงกลางชั้น 2

ใต้เวทีเป็นที่ใช้คนดันเวทีด้านบนให้หมุน หรือ ยกตัวละครขึ้นสู่เวทีด้านบน                
ที่ฝากรองเท้าของคนที่เข้ามาชมละคร
                          ป้ายด้านหน้าบอกชื่อเรื่องที่แสดงในโรงละครแห่งนี้
โรงละครเก่าแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่เมือง Kotohira ใน Shikoku Island สุดยอดของโรงละครที่ทำให้เห็น กลไกครบทุกอย่าง บางอย่างก็เหลือเชื่อว่า เค้าคิดได้ ทั้งที่สร้างขึ้นมาเมื่อหลายร้อยปีแล้ว กลไกเหล่านี้ เช่น รางบนหลังคาที่ทำให้ตัวละครบินได้ ช่องลับใต้เวทีที่ทำให้ตัวละครโผล่ขึ้นกลางโรงละครเพื่อหลอกให้ผู้ชมตื่นเต้น หรือ พื้นเวทีที่หมุนได้ หรือ ยกตัวละครขึ้นมาจากใต้เวที ล้วนแล้วใช้คนและกลไกที่ออกแบบไว้อย่างดี เพื่อให้ได้อรรถรสในการชมละคร 
ช่องสี่เหลี่ยม หนึ่งช่องนั่งได้ 4 คน ซึ่งเล็กมาก
                         ช่องตรงกลางชั้นสองนี้ คือ Royal Seat ที่นั่งที่พิเศษที่สุด
ภายในโรงละคร มีการแบ่งสัดส่วนของผู้เข้าชมตามฐานะ เช่น คนธรรมดาทั่วไปนั่งตรง main hall คนชั้นสูงนั่งด้านข้างเป็นสัดส่วน หรือ กลุ่ม Royal family นั่งชั้นบนสุดตรงกลาง 

ด้านหลัง มีการแบ่งห้องเป็นสัดส่วนชัดเจน เช่น ห้องอาบน้ำเช็ดเครื่องสำอาง ห้องแต่งตัว ห้องนักดนตรี ห้องตัวเอก ห้องตัวรอง ห้องตัวประกอบ หรือ ห้องนักแสดงผู้หญิง 

ลงไปดูใต้ เวที ได้เห็นจุดที่ออกแบบไว้สำหรับกลไกการหมุนเวที การซ่อนตัวของตัวละคร ที่น่าทึ่งจริงๆ

การเดินทาง


โรงละครนี้ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานี JR Kotohira เดินประมาณ 15 นาที

Tuesday, October 9, 2018

Shodoshima Island or Olive island

Shodoshima Island - ตามรอยการ์ตูน KIKI’s Delivery กับ ภาพยนตร์ในตำนานของญี่ปุ่น Twenty-fours Eyes

หนึ่งวันกับที่สุดในญี่ปุ่นอีกหนึ่งแห่ง ที่นี่คือเกาะที่ปลูกต้นมะกอกมากที่สุดในญี่ปุ่น เกาะนี้ตั้งอยู่ภายในภูมิภาคของ Shikoku Island นั่งเรือ car ferry เหมือนที่นั่งไปเกาะสมุย ออกจากท่าเรือTakamatsu Port

เกาะนี้มีสถานที่เที่ยวน่าสนใจหลายที่ ที่ได้เยี่ยมชมในทริปนี้คือ 
  1. ชมวิวเกาะ Shodoshima จากยอดเขา Kankakei Gorge เส้นทางการเดินทางสามารถขับรถขึ้นไป หรือ นั่งกระเช้า Ropeway ขึ้นไปบนยอดเขาก็ได้ เพื่อชมหุบเขา ที่นี่ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นหุบเขาที่สวยที่สุด 1 ใน 3 หุบเขาที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น วันนี้ถึงเราจะเช่ารถขับเที่ยวในเกาะ แต่ก็เลือกขึ้นกระเช้าเพื่อชมวิวหุบเขากัน



  2. Twenty-four Eyes Movies Village Studio หมู่บ้านทีสร้างขึ้นเพื่อถ่ายทำหนัง ที่โด่งดังมาก มีหนังที่ได้ awards of all times เรียกว่าเป็นหนังในตำนานของญี่ปุ่นเลยทีเดียว เรื่องนี้ถ่ายและฉายช่วงปี 1954 เป็นเรื่องย้อนยุคไปช่วง 1928-1946 ของครูสาวในโรงเรียนบนเกาะโดยมีเด็ก 12 คนเป็นนักเรียนกลุ่มแรก เหมือนได้เข้าไปในหนังเลย  ยังมีเรื่องที่เรารู้จักด้วย คือเรื่องโอชิน 






3 . พิพิธภัณฑ์โรงงานผลิต Shoyu เก่าแก่ของเกาะ ตามประวัติของเกาะนี้ แต่ก่อนปลูกถั่วที่ใช้ทำโชยุเป็นหลัก จึง มีโรงงานผลิตโชยุ ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ผลิตจากถั่วเหลือง และ Malt ชั้นดี ตามชื่อของเกาะ Shodoshima ที่แปลว่าถั่วขนาดเล็ก ที่นี่เล่าเรื่องวิธีทำโชยุแบบโบราณ แล้วก็มีร้านขายผลิตภัณฑ์ของเค้าด้านหน้า เค้าว่ากันว่าเป็นโชยุที่อร่อยที่สุดเลยทีเดียว



  1.  4. Olive Garden Park ที่นี่ถือเป็น Highlights ของเกาะ และรวมถึงสำหรับพวกเรา คือ นอกจากจะตามรอยการ์ตูนชื่อดังค่าย Studio Ghibli เรื่อง Kiki’s delivery มาที่นี่ก็ต้องมาขี่ไม้กวาด ถ่ายรูปกันที่หอคอย Greek Tower เลียนแบบนางเอกแม่มด Kiki ของเรื่อง  แล้วยังได้เดินชมสวนต้นมะกอกขนาดใหญ่ เค้าว่ากันว่า ถ้าหาใบมะกอกแฉกที่เป็นรูปหัวใจได้ จะถือว่าโชคดี แล้วเราจะพลาดได้ยังไง หากันจนเจอ ได้มา 4 ใบ มี 1 ใบที่ สวยมาก





  1. 5.ที่สุดท้ายสำหรับทริป คือ Angel Road หรือทะเลแหวกไปยังเกาะน้อยๆ เค้าบอกว่า เป็นเส้นทางแห่งความรัก ให้คู่หนุ่มสาวเดินจูงมือกันไปผูกหัวใจที่ต้นไม้ที่เกาะนั้น แล้วจะมี angel ติดปีก มาอวยพรและเสกให้มีรักที่ยืนยาว ยาวนาน 





จากนั้น ก็ถึงเวลานั่งเรือกลับ พอดีได้เวลาพระอาทิตย์กำลังตกน้ำพอดี ได้วิวสวยๆกลับไปนอนฝันถึงพอดี

การเดินทาง
  1. เกาะนี้สามารถเดินทางมาจากเมือง Okayama ด้วยรถไฟด่วนธรรมดา มายัง Takamatsu ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. รถไฟขบวนนี้ ต้นสายที่ Okayama และสุดสายที่ Takamatsu 
  2. จากนั้น นั่งเรือ จาก Takamatsu Port มายังเกาะ Shodoshima อีกประมาณ 1 ชม

ถ้าอยากมาเที่ยวเกาะนี้ให้สนุกแบบไม่รีบ ควรค้างที่ Takamatsu 1 คืน ก่อนข้ามมาเกาะตอนเช้า และเช่ารถ 1 วันเที่ยวรอบเกาะแบบสบายๆ สวยๆ

Sunday, October 7, 2018

Omihachiman เที่ยวเมืองประวัติศาสตร์ริมทะเลสาบบิวะ (BIWA Lake)

Omihachiman เที่ยวเมืองประวัติศาสตร์ริมทะเลสาบบิวะ (BIWA Lake)

 ตอนมาถึงมีนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นมากมาย แอบสงสัยว่าทำไมถึงมาเที่ยวกันที่เมืองนี้ ???

เมืองนี้ตั้งอยู่ใน Shiga Prefectures หรือ จังหวัดชิงะ เป็นเมืองเก่าแก่ เรียกได้ว่าเป็นเมืองแห่งสายน้ำที่มากมายด้วยมรดกทางประวิติศาสตร์ สายน้ำที่ว่านั้นคือ สายน้ำของทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น คือ ทะเลสาบบิวะ เมืองนี้เค้าเฟื่องฟูมากว่า 500 ปี และเมื่อ 100 ปีก่อนก็มีพวกฝรั่งมิชชั่นนารีมาอาศัยอยู่ด้วย สังเกตได้จากบ้านเมืองในชุมชนเก่าแก่ยังคงรักษาความเป็นโบราณไว้ได้อย่างมีเสน่ห์ทีเดียว ผสมผสานทั้งแบบญี่ปุ่นโบราณและแบบผสมตะวันตก



คนส่วนใหญ่ที่มาส่วนใหญ่เป็นคนญี่ปุ่น ไม่ค่อยเห็นคนต่างชาติอื่นๆหรือแม้แต่คนไทย มาเที่ยว 

ที่นี่มีเส้นทางจักรยานที่ขี่สนุก เลียบลำน้ำสายหลักของเมือง ไปยังทะเลสาบบิวะ ผ่านทุ่งนา แนวต้นกกริมน้ำ ผ่านย่านเมืองเก่า ย่าน Shinmachi ที่สร้างตั้งแต่สมัยเอโดะ เฟื่องฟูมาจนถึงสมัยเมจิ ขี่ไปก็เที่ยวชมเมืองกันไป นอกจากขี่จักรยานแล้วมาที่นี่ยังได้เที่ยวชมวิถีริมน้ำด้วยการนั่งเรือล่องตามลำน้ำของเมืองชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ อีกด้วย


อีกหนึ่ง Highlight คงไม่พ้นศาลเจ้าเก่าแก่ศักดิ์สิทธิ์ของเมือง ชื่อ Himure Hachiman-gu Shrine   เที่ยวศาลเจ้านี้แล้วก็เดินลงริมน้ำ ล่องเรือชมเมืองกันได้เลย



วันนี้อากาศดี ขี่จักรยานในวันอากาศดี ไม่มีฝน ไม่มีแดด มันก็จะสบายๆดี นอกจากนี้ ถ้าเดินทางมาด้วยรถไฟ Shinkansen ล่ะก็ สามารถเช่าจักรายานขี่ฟรีได้เลยที่เมืองนี้






การเดินทาง

มีรถไฟด่วน Shinkansen ตรงจาก สถานี Shin-Osaka - มาลงที่สถานี Omachiman ได้เลย อยู่ที่ Track 22 ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชม

Friday, October 5, 2018

Onomichi -- เที่ยววัด + ปั่นจักรยาน



Onomichi เป็นเมืองระหว่าง Hiroshima และ Okayama  มีสิ่งน่าสนใจ 2 อย่างคือวัด และ เส้นทางจักรยาน ตัวเมืองตั้งอยู่บนเนินเขาติดอ่าว มีทั้งวัดและบ้านเรือนตั้งอยู่ตามเนินเขาแน่นขนัด


ด้านหลังเมือง




ตัวเมืองมีชื่อเสียงจาก โดยเฉพาะหนังเรื่อง Tokyo Story














Visiting Time: ครึ่งวัน

ปั่นจักรยาน





















Link:

Lonely Planet:
http://www.lonelyplanet.com/japan/western-honshu/onomichi/sights/religious/temple-walk#ixzz3jnR4JgbA

Onomichi City:
http://www.ononavi.com/model_course/


http://www.ononavi.com/model_course/index.html