ไปญี่ปุ่นรอบนี้ หลังจากคราวที่แล้ว 2 ปี เพราะ ปีที่แล้ว ขนมปัง เนย อยู่ในช่วงเตรียมสอบเข้าชั้นป. 1 เลยเว้นไปหน่อย เที่ยวนี้ไปการบินไทย เหมือนคราวที่แล้ว ที่ซื้อตั๋วไว้ล่วงหน้าตอนมีโปรโมชั่น
เหมือนทุกครั้งคนที่ทำการวางแผนการเที่ยว จองโรงแรม กำหนดเส้นทางทั้งหมด เป็นป่ะป๊าเหมือนเดิม คราวนี้ขนมปัง เนย อายุ 6 ขวบกว่าแล้ว ค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพิ่มขึ้นทันทีเพราะไม่ได้ฟรีแล้ว แต่ก็ยังดีตีตั๋วเด็กลด 50% ทั่วประเทศ
|
หลังคาบ้าน Shirakawago |
ความจริงจุดเริ่มของทริปนี้เกิดจากรูปถ่ายของบ้านชาวนา ที่มีหิมะคลุมหลังคาสีขาวนวลสะท้อนแสงไฟตอนกลางคืน ทำให้เกิดความอยากที่จะไปดูด้วยตาตัวเองจึงให้ปะป๊าไปหาข้อมูลจนพบว่ามันคือเมือง Shirakawago จากนั้นจึงเกิดเส้นทางเพื่อไปเที่ยวเมืองนี้ขึ้น แม้ว่าคราวนี้ไม่เห็นหิมะบนหลังคา เห็นแต่หญ้าเขียวๆ แต่ได้ไปนอนบ้านชาวนาที่ได้สัมผัสกลิ่นอายท้องถิ่นแบบญี่ปุ่น
|
ใบไม้เปลี่ยนสีที่นากาโน |
ช่วงที่ไปเยือนญี่ปุ่นก็เป็นช่วงต้นเดือนตุลาคม ใบไม้ในหลายพื้นที่เริ่มเปลี่ยนสี ถ้าเป็นพื้นที่ภูเขา ก็จะเริ่มเห็นสีสันของใบไม้ไล่ระดับมาจากยอดเขา อากาศก็เริ่มเย็นสบาย ในพื้นที่ภูเขาก็ต้องใส่เสื้อผ้ากันหนาวแล้ว
|
ฟ้าใสๆที่ Mt. Tateyama |
ที่มาของบล็อกคราวนี้เกิดจากเสียงเรียกร้องของเพื่อนๆพี่ๆให้ช่วยส่งรายละเอียดการไปเที่ยวให้หน่อย เลยคิดว่าน่าจะบันทึกเป็นบล็อกเก็บไว้เผื่อเป็นประโยชน์กับคนที่สนใจเส้นทางนี้เหมือนกัน และที่สำคัญเก็บไว้อ่านเองเวลาปังเนยโต
รีวิวโปรแกรมการเดินทางทั้งหมดก่อนนะ ทริปนี้เน้นเที่ยวนอกเมือง เส้นทางเดินทาง
- วันที่ 1 ---- กรุงเทพฯ - ชินจูกุ - ตสึโมะโตะ
- วันที่ 2 ---- Kiso Valley - Shibu Onsen
- วันที่ 3 ---- โนะ - มัต
- วันที่ 4 ----- ญี่ปุ่นอัลไพน์เส้นทาง
- วันที่ 5 ----- Kanazawa
- วันที่ 6 ----- Shirakawago
- วันที่ 7 ----- Takayama
- วันที่ 8 ----- คามิโคจิ - ตสึโมะโตะ
- วันที่ 9 ----- Eno - กินซ่า - กรุงเทพฯ
|
เครื่องบินลำที่จะออกเดินทาง |
เวลาบินของการบินไทยจากที่เคยบินไปนาริตะ กลางดึก ถึงตอนเช้า เปลี่ยนเป็น บินเช้า ถึงเย็นแทน จริงๆก็ดีสำหรับเที่ยวไป แต่สำหรับเที่ยวบินขากลับไม่เวิร์กเพราะแทบไม่มีเวลาทำอะไรมาก เพราะ Flight ตอนเย็น ถึง สี่ทุ่มกว่า แทนที่จะเป็นดึกๆแล้วถึงกทม.เช้ามืด
|
ช่างภาพเตรียมพร้อม |
ออกเดินทางแต่เช้าเครื่องออก 7.45 ถึงสนามบินนาริตะ 15.45 กว่าจะได้กระเป๋าออกมาเกือบ 17.00 แล้ว
|
ป้ายรถบัส Limousine หน้าทางออกสนามบินนาริตะ |
ไปด้วยเครื่อง A380 เครื่องใหม่ล่าสุด มีสองชั้น ขนคนได้หลายร้อยคน ทำให้เสียเวลารอกระเป๋านานมาก คราวนี้ลากกระเป๋าใบใหญ่ เลยเดินทางเข้าเมืองด้วยรถบัสประหยัดแรง ถ้าเดินทางด้วยกระเป๋าใบใหญ่เข็นลำบากก็ใช้บริการรถบัส Airport Limousine ได้ไปส่งถึงหลายจุดในเมืองเลย ถ้าพักโรงแรมใน Tokyo ก็ยิ่งสะดวกใหญ่
|
รถบัสนั่งสบาย |
รถบัสให้โหลดของได้ 2 ชิ้น ก่อนขึ้นรถ พนักงานก็จะให้ตั๋วกระเป๋าเอาไว้ตอนลงรถแล้วขึ้นไปนั่งตามที่นั่งในตั๋ว ข้างในนั่งสบาย ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง จอดหลายจุดในตัวเมือง คราวนี้เลือกไปลงที่ Shinjuku หน้าสถานีรถไฟ Shinjuku เลย ไปถึง Shinjuku ก็เกือบ 1 ทุ่มแล้วจากสถานีเดินข้ามถนนไปซื้อตั๋วรถบัส Keio ไปเมือง Matsumoto ได้เลย หาตู้ Locker เก็บกระเป๋าแล้วแวะกินข้าวที่ร้าน Yoshinoya อยู่แถวๆสถานีรถบัส แวะ Shopping แบบอุ่นเครื่อง ก่อนออกเดินทางไป Matsumoto ตอน 2 ทุ่ม
|
สำนักงานขายตั๋ว Keio ท่ารถอยู่ตรงข้ามกับสำนักงานขายตั๋ว |
ตามโปรแกรมต้องเดินทางไปนอนที่ Matsumoto กว่าจะถึงโรงแรมปาเข้าไป เที่ยงคืนน่ะ
เมืองนี้ น่ารักดีนะ แต่ว่าคืนแรกไม่เห็นอะไรมาก ตามโปรแกรมจะต้องกลับมาที่นี่ 3 รอบเลยล่ะ มีของดีหลายอย่างเลย คืนแรกพักที่ Tokyu Inn Matsumoto ติดกับสถานีรถบัสเลย ใกล้สถานีรถไฟ JR Matsumoto
การเดินทาง
นาริตะ --- ชินจูกุ
รถบัส Airport Limousine ใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง
ตั๋วซื้อได้ที่ Counter ในสนามบินตรงประตูทางออก
รถจอดที่สถานี JR Shinjuku ตรงฝั่ง West Gate Exit
เช็คเวลาและจุดจอด ได้ที่ :
http://www.limousinebus.co.jp/en/
ราคา: 3300Y
ชินจูกุ --- ตสึโมะโตะ
ข้ามถนนจากจุดจอดรถ Airport Limousine ซื้อตั๋วไป Matsumoto ได้ที่ Keio Bus Station
การเดินทางใช้เวลาราว 3 ชั่วโมง
เช็คเวลา:
http://www.alpico.co.jp/access/express/matsumoto_shinjuku/
Price: 3400Y ใช้เงินสดซื้อมากกว่า 2 ใบมีส่วนลด
ที่พัก
Matsumoto Tokyu Inn
อยู่ติดกับสถานีจอดรถบัส Matsumoto
จองที่พักผ่านเว็บโรงแรมได้โดยตรง มีฟรี Wifi ตรง Lobby
ที่พักคุ้มค่ามาก ติดกับห้างที่มีแหล่งช็อปปิ้ง Food Center ใกล้สถานีรถไฟ และที่สำคัญราคาโอเค
เว็บ
http://www.tokyuhotelsjapan.com/en/TI/TI_MATUM/index.html
Price: ราคาไม่รวมอาหาร 11000Y
|
หน้าโรงแรม Tokyu Inn |
|
ล็อบบี้ |
|
ห้องนอน |
|
ห้องน้ำมาตรฐาน |
ดูแผนที่ขนาดใหญ่
No comments:
Post a Comment