|
ดอกไม้บนทางเดินขึ้นวัดในเมือง Shibu Onsen |
ตอนเช้า ตื่นขึ้นมาตามเวลาตอนเช้า เพราะมีโปรแกรมต่อทั้งวัน เริ่มกันด้วยอาบน้ำแช่ออนเซ็นของโรงแรมดีกว่า เพราะไม่ปลื้มบ่อสาธารณะด้านนอก ก็แช่แป๊บๆ เพราะเวลาไม่ค่อยเอื้อ ป่ะป๊าไปกับน้องขนมปัง ส่วนหม่าม๊าไปกับน้องเนย
|
Breakfast อเมริกันผสมญี่ปุ่น |
เสร็จสรรพ มานั่งกินมื้อเช้าแบบญี่ปุ่น อีกรอบ แต่ Set Meal ที่นี่ เป็นแบบ Japanese-American Meal คือ เป็นอาหารญี่ปุ่นที่ผสมผสานรสชาติแบบตะวันตกไปด้วย เช่น ไข่กระทะกับชีส ประมาณนั้น แต่ก็อร่อยพอประมาณ
หลังเสร็จจากอาหารเช้า ทางโรงแรมเตรียมรถ เพื่อ ไปเที่ยวดู “ลิงแช่ออนเซ็น” แต่ทางโรงแรมแจ้งเราเบื้องต้นแล้วว่าเราอาจไม่เจอลิงวันนี้ เพราะ ช่วงนี้อยู่ในช่วงฤดูผสมพันธ์ ของลิง แต่อย่างไรก็ตามให้ลองไปดูละกันเผื่อจะโชคดีได้เห็นบ้าง ไหนๆ ก็มาไกลถึงที่นี่แล้ว ยังไงก็คงต้องไป
|
เมือง Shibu Onsen |
ช่วงระหว่างรอขึ้นรถ มีโอกาสเดนดูเมืองตอนสว่าง ตรงกลางเมืองเป็นถนนแคบๆ ที่ทั้งรถและคนใช้เดินไปมา รถที่วิ่งก็เป็นแบบคันเล็กกระทัดรัด
|
บ่อแช่ออนเซ็นเท้าฟรีในเมือง |
|
ฐานรูปปั้นบนยอดเนินในเมือง Shibu Onsen |
ตรงกลางเมืองมีศาลเจ้า พร้อมที่แช่เท้าออนเซ็นสาธารณะ สำหรับคนที่แวะมาเที่ยวแปบเดียว ฝั่งตรงข้ามเป็นบันไดขึ้นเขาไป บนเขามีวัดและรูปปั้นสไตร์ญี่ปุ่น
|
ลานจอดรถ ก่อนทางเดินเข้าไปสู่ Park |
เราเดินทางไปพร้อมกับคู่สามีภรรยาจาก Michigan USA ที่พักที่เดียวกันและร่วมเดินทางไปดูลิงด้วยกัน ส่วนกระเป๋าทางโรงแรมจะเอาไปฝากรอไว้ที่สถานี Yudanaka ไปเที่ยวตัวเปล่าได้ รถโรงแรมมาส่งถึงทางเข้าลานจอดรถของ Park ส่วนการไปสถานี Yudanaka หาทางไปเอง แต่เค้าก็แนะนำให้ขึ้น Taxi ที่มีจอดรอที่ลานจอดรถ
|
ทางเดินเข้าไปสู่ Jigokudani Monkey Park |
ทางเดินไปสู่สวนเลาะไปตามเนินเขาและผ่านแม่น้ำ ก่อนเข้าสู่ทางเข้าที่ต้องเสียค่าผ่านทาง ตอนนี้อากาศเริ่มเย็นลงจนรู้สึกได้แม้ว่าแดดจะออกแล้ว
|
บ่อน้ำร้อนธรรมชาติ |
บางช่วงผ่านบ่อน้ำร้อนที่ผุดขึ้นมาจากรอยแยกของหินริมแม่น้ำ ล้อมบริเวณกันคนเข้าไปเล่น ลองเข้าไปดูใกล้ ปรากฏว่าน้ำร้อนจัดเลย
|
ช่วงสุดท้ายก่อนเข้าสู่ด่านเสียเงิน |
Jigokudani Monkey Park เป็นสถานที่มีชื่อเสียงของนากาโน เนื่องจากเป็นสวนแห่งเดียวในโลกที่มีลิงแช่น้ำร้อน หรือ Monkey Onsen ลิงที่นี่เรียนรู้การแช่ออนเซ็นในช่วงหน้าหนาวที่มีหิมะตกปกคลุมเป็นเวลานานในพื้นที่เขตนี้ ความจริงแต่แรก ลิงยังไม่รู้จักการแช่บ่อออนเซ็น แต่เป็นเพราะระหว่างที่รอให้อาหาร มีลิงบางตัวเริ่มเรียนรู้การแช่บ่อน้ำร้อนช่วยแก้ความหนาวเย็นได้ ลิงที่เหลือค่อยๆทำตาม จนสุดท้ายก็ทำตามกันเกือบหมด ฟังดูแล้วก็เหมือนคนนิ
|
ร้านขายของที่ระลึกทางเข้าสวน |
เมื่อไปถึงก็เป็นไปดังคาด ลิงมีธุระสำคัญ (กำลังหาคู่อยู่ในป่า) จึงไม่ว่างมาปรากฏตัวแม้ว่าทางสวนจะให้คนไปตามแล้ว เดินขึ้นไปไม่เห็นลิงเป็นๆซักตัว เห็นแต่คนที่ไปรอดูลิง แล้วก็รูปถ่ายลิง คนรอเต็มทางเข้า ทั้งจีน ฝรั่ง ญี่ปุ่น (และไทย อีก 4 คน) ผิดหวังกันหมด เดินไปมาซักพัก พอหอมปากหอมคอ น้องขนมปัง เนย ซื้้อของฝากติดมือเล็กๆน้อยพอเป็นพิธี
|
ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก |
ตรงทางเข้า ตั้งอยู่บนยอดเขามองเห็นทิวทัศน์ในมุมสูงของเขตพื้นที่ทางเข้า Jigokudani Monkey Park ได้
|
ทางเดินกลับไปขึ้นรถเมล์ |
เดินกลับไปรอรถเพื่อกลับเข้าเมืองกันดีกว่า การเดินกลับ กลับไปอีกทางกับขามา ตอนโรงแรมมาส่งก็แนะนำว่าให้เดินกลับทางเดิมแล้วเรียก Taxi แต่เพื่อความประหยัดเราหาทางไปรถเมล์ดีกว่า
|
เจอแล้ว ลิงแช่ออนเซ็น |
ทางกลับเลาะไปตามขอบเขาอีกทิศกับขามา มีทางเดินสะดวกกว่า ระหว่างทางเดินมาที่ป้ายรถเมล์ ที่ห่างจากจุดดูลิงราว 3 กม. แต่เป็นเส้นทางเดินสบายๆ ก็เดินกันเพลินๆ ดูนั่นนี่ไป แค่ ครึ่งชม.นิดๆ เราก็เดินมาถึงทางออก
|
ทาง (เข้า) ออก อีกทาง |
ปัญหาต่อไปคือต้องหาป้ายรถเมล์ พอเดินออกมาจากทางออกก็ไม่เห็นวี่แววของ ป้ายรถเมล์เลย เป็นมุมถนนโล่งๆไม่มีบ้านคน เลยลองเดินลงมาเรื่อยตามถนนลงเนินเขา ระหว่างที่ป่ะป๊า ไปหาป้ายรถเมล์ แถวนั้นมีต้นเกาลัดด้วย เราพาขนมปัง เนย มาดูต้นเกาลัด และยังเห็นเม็ดเกาลัดตกอยู่บริเวณใต้ต้นหลายเม็ดอยู่ ขนมปัง เนย ก็ได้รู้จักกับต้นเกาลัด
|
เก็บเกาลัด |
เพื่อเป็นการใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ เลยชวนกันเก็บเกาลัด ผลเกาลัดที่มีหนามแหลมๆอยู่ด้านนอก เมื่อแก่จัดผลจะแตกออกเห็นเม็ดเกาลัดอยู่ด้านในเหมือนที่เราคุ้นเคยและซื้อกินอยู่นั่นแหละ เลยช่วยกันเก็บกันใหญ่เป็นที่สนุกสนาน
|
เวลาป้ายรถเมล์ |
กว่าที่ป่ะป๊าจะมาพาไปที่ป้ายรถเมล์ 3 คนแม่-ลูกก็เก็บได้ แยะพอควร ว่าไปให้ยายของหลานๆ คั่วให้กินที่เมืองไทย ป้ายรถเมล์อยู่ถัดลงมาจากทางออกเดินสัก 10 นาที มาถึงก็เห็นคู่สามีอเมริกันที่มาด้วยกันแต่แรกรอที่ป้ายรถพอดี คุยกันก็บอกว่ากำลังจะไปเที่ยวต่อเกียวโต เลยชวนมาเที่ยวเมืองไทยโอกาสหน้า ตอนดูเวลาที่ป้ายรถเมล์ก็ดูไม่ออก ต้องเดินไปถามลุงญี่ปุ่นที่นั่งอยู่แถวนั้น ใช้ภาษาใบ้อยู่นานกว่าจะเข้าใจกัน คันต่อไปที่จะมาเป็นเวลา 11.16
|
ต้องดึงตั๋ว ใช้บอกราคาตอนลง |
เวลา 11.15 รถเมล์ก็โผล่ขึ้นเขามาตามเวลา จอดรอจนถึง 11.16 พอดีเป๊ะรถออก
ตอนขึ้นก็ดึงตั๋วเล็กๆ บอกหมายเลขของป้ายที่เราขึ้นมา ตอนลงก็ดูที่จอหน้ารถว่าตั๋วของเรา ต้องจ่ายเงินเท่าไหร่ รถจอดหน้าสถานี Yudanaka พอดี ทั้งรถมีคนขึ้นแค่สองครอบครัวเท่านั้น
|
สถานี Yudanaka |
จุดหมายต่อไป คือ Nagano เพื่อไปวัด และเที่ยวชมเมืองซะหน่อย ที่พลาดไม่ได้ สำหรับเมืองนี้คือ โซบะ พริกป่น เพราะได้ชื่อว่าเป็นเมืองต้นกำเนิดของ โซบะ ของประเทศ เลยเชียวนะ พริกป่นที่นี่ก็ขึ้นชื่อเช่นกัน แต่ระหว่างรอรถไฟ ก็แวะไปซื้อแผงขายผลไม้ของชาวบ้านที่อยู่หน้าสถานีรถไฟ แอปเปิ้ลอร่อยมาก องุ่นก็ลูกโตๆราคาถูกมาก เป็นเสบียงไปกินบนรถไฟ
การเดินทาง
Jigokudani Monkey Park -- Yudanaka Station
จากป้ายรถ Kabayashi Onsen Bus Stop นั่งรถเมล์ราว 15 นาที
Price: 250Y
Yudanaka -- Nagano
Price: 1250Y ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง
ค่าเข้าชม
ค่าเข้าชมลิงแช่ออนเซ็น 500Y
Pantip Review:
http://2g.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11963844/E11963844.html
ข้อมูลเพิ่มเติม
Jigokudani Monkey Park:
http://www.jigokudani-yaenkoen.co.jp/english/html/onsenmonkey.htm
ตอนต่อไป
** Japan 2013 ** Day 3 : ตอน 2 เที่ยววัดที่ Nagano กลับ Matsumoto
ตอนเดิม
** Japan 2013 ** Day 2 : ตอนที่ 2 หลัง Trekking โหด ก็ แช่ออนเซนต่อ ที่ Shibu Onsen แล้วไปรอดู Snow Mountain
No comments:
Post a Comment