Wednesday, October 28, 2015

Tomonoura -- เมือง Ponyo

วัด Fukuzenji Temple

ติดใจการ์ตูน Ponyo มานานแล้ว รู้ว่าเมือง Tonomoura เป็นเมืองที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนแต่งเรื่อง Ponyo มาพักอยู่เป็นแรมเดือนก่อนเริ่มเขียนการ์ตูน ก็ตั้งเป้าว่าต้องมาเยี่ยมชมเมืองนี้

ก่อนมาได้มีโอกาสดูสารคดีจาก NHK ก็ยิ่งสนใจที่จะไปเมืองนี้ เมื่อมีโอกาสเดินทางผ่าน เลยไม่พลาดที่จะใส่เมืองนี้เข้าไปในโปรแกรม

ตัวเมืองมองจากด้านตรงข้าม

เมือง Tonomoura เป็นเมืองท่าปลายแหลม ตั้งอยู่ในเขตฮิโรชิมะ แต่อยู่ในจังหวัดฟูกูยามะ เป็นเมืองขนาดเล็กริมทะเลสุดปลายแหลม ไม่มีทางรถไฟผ่าน ต้องนั่งรถบัสโดยสารจากสถานีฟูกูยามะ (Fukuyama) ประมาณครึ่งชั่วโมงถึงจะถึงตัวเมือง


ทางเดินในเมือง

ตัวเมืองเงียบสงบ เป็นบ้านเรือนตั้งอยู่ตามขอบชายฝั่งทะเล ไล่ไปตามขอบเนินเขาไปเรื่อย เป็นหมู่บ้านชาวประมง ที่ยังคงมีการออกเรือจับปลาให้เห็นได้


วัด Fukuzenji

จุดแรกที่ทุกคนเมื่อมาเมืองนี้แวะเยี่ยมชมคือ วัด Fukuzenji ตั้งอยู่บนเนินเขา อยู่ตรงข้ามกับป้ายจอดรถเมล์ขามาพอดี


วิวสวย

จุดเด่นของวัดนี้ไม่ได้อยู่ที่ตัววัด แต่เป็นวิวที่มองออกไปผ่านกรอบไม้จากตัววัด มองเห็นเกาะเล็กๆอยู่ไกลๆ บางจังหวะก็มีเรือหาปลาแปลกตาแล่นผ่านไปมา ว่ากันว่าจุดนี้ เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุด จนทูตจากเกาหลีเหนือเคยกล่าวชมไว้ว่า "Eastern japan's most scenic beauty" 


วิวจากวัด Loji

เมืองนี้มีวัดหลายแห่ง กระจายอยู่ตามเนินเขา วัด Loji ตั้งอยู่บนยอดเนินเขาระยะทางไม่ไกล แต่ใช้เวลาเดินค่อนข้างนานเพราะต้องเดินขึ้นเขาตลอด จากตัววัดจะมีทางเดินขึ้นไปอีก ราว 15 นาทีเพื่อขึ้นไปถึงยอดเขาเป็นจุดชมวิวที่สวยสุดของเมือง


บ้านต้นแบบในการ์ตูน Ponyo

เมืองนี้สร้างแรงบันดาลใจให้กับทีมงานสร้างหนังหลายเรื่อง ผู้เขียนการ์ตูน Ponyo มาพักอยู่ที่นี่หลายเดือนก่อนจะจำลองเมืองเป็นต้นแบบของเมืองที่ตัวการ์ตูนอาศัย ระหว่างทางเดินขึ้นวัด Loji จะผ่านบ้านสีเหลืองเด่นจากบ้านหลังอื่นอย่างชัดเจน



ว่ากันว่าบ้านนี้เป็นต้นแบบบ้านของ โซซูเกะ ตัวเอกของเรื่อง


การ์ตูน Ponyo

ตามร้านค้าในเมืองมีตัวการ์ตูน Ponyo หรือ เอารูปวาดมาติดให้เห็นเป็นจุดๆ แต่ไม่มากมายอะไร
นอกจาก การ์ตูน Ponyo แล้ว ยังมีหนังเรื่อง Wolverine ที่เคยมาถ่ายทำที่นี่ด้วย


ร้านขาย Shochu

ของขึ้นชื่อที่นี่อีกอย่างคือ Shochu คล้ายเหล้าดอง ที่เป็นเหมือนสาเก แต่มีการหมักจากสมุนไพรหลายรายการ รสชาติออกหวานกว่าสาเก แต่มีกลิ่นหอมสมุนไพร มีให้ลองชิมตามร้านค้า


โรงบ่มสาเกใน Ota Residence

ตรงปลายแหลมถัดจากประภาคารจะเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง  ที่น่าสนใจคือ Ota Residence เป็นบ้านเก่าของตระกูล Ota ที่หมักเหล้า Shochu ขายมาตั้งแต่สมัย Edo  ด้านในจะเป็นสภาพบ้านโบราณที่รักษาอย่างดี รวมถึงโรงบ่มเหล้าสาเก ที่สำคัญคือมีไกด์ ชาวญี่ปุ่นเดินพาชมตลอด (ถือโพยภาษาอังกฤษคอยอธิบาย)

ประภาคาร
สัญลักษณ์อีกอย่างของเมืองคือประภาคาร ตั้งอยู่สุดปลายแหลม ตรงนี้มีพิพิธภัณฑ์ และ ร้านกาแฟน่ารักตั้งอยู่ติดกับอ่าว ที่มีเรือหาปลาและเรือยอร์จ จอดอยู่โดยรอบ


เมืองมองจากด้านตรงข้าม

ยังมีการนั่งเรือชมอ่าวของเมืองที่ไม่มีเวลาได้เยี่ยมชม ถ้ามีโอกาสคงกลับมาแวะกลับมานอนค้างสักคืน

การเดินทาง


เมือง Tomonoura ไม่มีทางรถไฟผ่าน สถานีรถไฟที่ใกล้สุดคือ Fukushima
การเดินทางจากสถานีรถไฟ Fukushima ต้องนั่งรถเมล์ ป้ายหมายเลข 5 เดินตรงออกมาจากสถานีจะเห็นเลย แต่ต้องดูคนที่ขึ้นให้ดี ถ้าให้ดีถามยืนยันกับคนขับอีกทีก็ดี รถบัสออกทุกๆ 30 นาที 520 เยน

ตารางเวลารถบัสขาไปจากสถานีรถไฟ



ตารางเวลารถบัสขากลับสถานีรถไฟ



ป้ายรถเมล์ Tomonoura

ค่าเข้าชม

วัด Fukuzenji  --  200  yen
Ota Residence -- 400 yen

No comments:

Post a Comment