..บันทึกเดินทางขนมปังเนย..: ** Japan 2013 ** Day 4 : ตอนที่ 2 เดินทางลง Tateyama Kurobe Alpine Route -- Kanazawa

เข้าคิวรอรถบัสลงจาก Murodo

หลังจากเยี่ยมชมสระ Mikurigaike ก็ลงมาเตรียมตัวเดินทางเพื่อไปสถานีต่อไปคือ Biyodaira ช่วงนี้เป็นการนั่งรถบัสธรรมดา จังหวะไม่ดีลงมารถเพิ่งออกไปต้องเข้าคิวรออีกครึ่งชัาวโมง ตอนเข้าคิวมีแบ่งแถวธรรมดา กับกรุปทัวร์ และจุดลง

นก Raicho

ระหว่างรอมาเดินดูของที่ระลึก ที่เป็นตัวเอกของตุ๊กตาน่าจะเป็นนกประจำถิ่นเรียกว่านก Raicho ตอนแรกเห็นแต่รูปติดอยู่หลายที่เป็นภาษาญี่ปุ่นไม่เข้าใจความหมายเลยลองมาหาข้อมูลเพิ่มเติมในเน็ท

นกไรโจ เป็นนกป่าหิมะดึกดำบรรพ์อาศัยอยู่ตามเขาสูง เป็นนกที่มีมาตั้งแต่ยุคน้ำแข็ง มีความเชื่อว่าเป็นนกที่ส่งสารจากเทพเจ้า ในบริเวณ Murodo มีนกไรโจเพียง 240 ตัว จึงได้รับการถือเป็นอนุสรณ์พิเศษเชิงธรรมชาติ (National Monument) โชคดีอาจเห็นนกเดินเล่นตอน Trekking ที่ Murodo ได้ แต่เราไม่เจอเลย เลยมาเอาในร้านนี้แทน ได้นกไรโจให้น้องปังตัวนึง

รถบัสลงมาจาก Murodo

หลังจากรอสักพักก็ได้เวลาเดินทาง คราวนี้เป็นการนั่งรถบัสลงมา ผ่านเส้นทางที่เรียกว่า Snow Corridor ถ้าเป็นช่วงหน้าหนาวรถบัสของเราวิ่งผ่านถนนที่ขนาบข้างไปด้วยแนวหิมะสูง เจาะช่องเฉพาะรถผ่าน แต่ตอนนี้หน้าร้อนหิมะละลายเกลี้ยง

ไม่น่าเชื่อว่าขาลงมาจากบนสุดยอดเขาใช้เวลาในรถบัสกันเป็นชั่วโมงทีเดียวเพื่อไต่ระดับจากระดับความสูง 2.5 กม. สูงจากน้ำทะเล ลงมาระดับล่างสุดท้ายคู่แฝด ขนมปัง เนย หลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน จนถึงสถานี Biyodaira

ระหว่างนั่งรถลงมาจะสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของต้นไม่อย่างชัดเจน ยิ่งลงมาข้างล่าง ต้นไม้ก็มีขนาดสูงใหญ่ขึ้น สีเขียวครื้มมากขึ้น

Biyodaira

ความจริงระหว่างสถานี Murodo และ Biyodaira ยังมีจุดจอดรถย่อยสำหรับพวกที่ต้องการเดิน Trekking อีกจุดเรียกว่า Midagahara เป็นเส้นทางเดินผ่านบึงน้ำขังขนาดใหญ่เหมาะสำหรับคนชอบธรรมชาติ ตอนลงจากสถานี Murodo จะมีช่องแยกจุดรอ ต้องเข้าคิวให้ถูกจุด ไม่งั้นถ้าไปรถอีกสายจะจอดแวะที่ Midagahara ก่อนแล้วค่อยมาที่ Biyodaira

ต้นสนหญิงงาม

ถึงสถานี Biyodaira ก็นั่งรอ Cable Car ที่ด้านข้างสถานี อากาศเย็นสบายสดชื่นมากแฝดน้อยสองคนยังหลับต่อเนื่องมาจากรถบัส

ใกล้จุดที่นั่งมีต้นสนขนาดใหญ่ พร้อมศาลเล็กๆ มีป้ายบอกเรื่องราวเป็นภาษาญี่ปุ่น มาหาข้อมูลในเว็บอัลไพน์รูท เลยรู้ที่มา ขออ้างอิงเรื่องราวมาจากเว็บอัลไพน์รูทนะ

เมื่อ 1,300 ปีก่อนได้มีเจ้าหญิงคู่หมั้นที่มีรูปโฉมงดงามที่กล่าวกันว่าเป็นผู้บุกเบิกทาเตยามะเจ้าหญิงอยากพบกับคู่หมั้นจึงได้ปีนขึ้นไปบนเขาทาเตยามะ แต่เนื่องจากมีข้อห้ามที่เชื่อกันว่าห้ามผู้หญิงปีนภูเขาแห่งนี้จึงได้ถูกไล่ให้กลับลงมา และระหว่างทางได้พบต้นสนต้นหนึ่ง เจ้าหญิงจึงตั้งจิตอธิษฐานขึ้นว่า “ต้นสนที่งดงาม หากเจ้ามีหัวใจเช่นกันกับเราช่วยฟังคำวิงวอนของเราด้วยเถิด” และ หลังจากนั้นสิ่งที่อธิษฐานขอได้กลายเป็นจริงเมื่อทั้งสองได้หมั้นหมายกัน ดังนั้น สนต้นนี้ จึงถูกเรียกว่า บิโจสุงิ (ต้นสนหญิงงาม) และบริเวณนั้นได้ถูกเรียกว่า บิโจไดระ (ที่ราบหญิงงาม)

ลูกพลับ Tateyama

กลับเข้ามาในสถานี ที่มีขนมหลายอย่างแต่เราลองดูแล้วไม่ค่อยประทับใจ เห็นมีลูกพลับอบแห้งที่มีคนซื้อกันหลายคน ลองชิมดูแล้วก็พอใช้ได้แต่ยังไม่โดนเท่าไหร่

Cable Car Tateyama

การเดินทางช่วงสุดท้ายเป็นการนั่ง Cable Car ลงไปที่สถานี Tateyama ใช้เวลาเดินทางสัก 10 นาที แต่คนตอนนี้ค่อนข้างแน่นเนื่องจากมีกรุปทัวร์ด้วยเลยต้องเบียดเสียดกันหน่อย

Toyama Train

ที่สถานี Tateyama เป็นจุดพักเดินทางต่อไปยังสถานี Dentetsu Toyama เพื่อเดินทางต่อไป Kanazawa อีกที กรุปทัวร์ส่วนใหญ่มักแยกเดินทางต่อไปด้วยรถบัสที่จุดนี้ ที่รถไปเลยไม่มีกรุปทัวร์แล้ว ส่วนใหญ่เป็นนักเดินทางที่มากันคนสองคน และผู้โดยสารท้องถิ่น รถไฟก็เป็นแบบ Local Train ที่จอดทุกป้าย ไปเรื่อยๆ ค่าเดินทางช่วงนี้ยังรวมอยู่ในตั๋ว Package ที่ใช้มาตั้งแต่เช้า

หลังจากไปเอากระเป๋าที่ส่งมารอล่วงหน้าที่ Information Center ที่อยู่ด้านหน้าสถานี ก็มานั่งรอรถไฟ
กำหนดเวลารถไฟออกมีช่วงเวลาค่อนข้างห่าง จังหวะไม่ดีอาจรอมากกว่าชั่วโมงได้

ทิวทัศน์ช่วง Tateyama

รถไฟออกเดินทางก็สี่โมงเย็นกว่าแล้ว ช่วงแรกรถไฟผ่านทิวทัศน์ธรรมชาติ หลังจากนั้นสักพักก็ผ่านเข้าเมือง รถไฟจอดทุกป้าย บางป้ายมีขนาดเล็กๆเก่าๆ คงเป็นเส้นทางดั้งเดิมที่คนท้องถิ่นใช้สัญจร ช่วงนี้ใช้เวลาเดินทางชั่วโมงกว่า ก็ถึงสถานี Dentetsu Toyama สถานีนี้ควรเป็นสถานีที่จะส่งกระเป๋ามาแต่แรก แต่ก็เอามาเรียบร้อยแล้วเลยไม่ต้องเสียเวลาเดินหาจุดรับกระเป๋า

ถึงสถานี Toyama ก็เกือบ 6 โมงแต่ต้องไปต่อที่เมือง Kanazawa ต้องเดินออกไปนอกสถานี Dentetsu Toyama เพื่อไป JR Toyama เดินตามป้ายไม่ยาก สักพักก็ถึงสถานี Toyama

การเดินทางจาก Toyama ไป Kanazawa ใช้เวลาเกือบชั่วโมงต้องเล็งป้ายลงให้ดี

Kanazawa Station

อาหารเย็นของวันนี้เป็น Bento เจ้าอร่อยที่เราซื้อที่สถานีรถไฟ ที่ JR Toyama สถานีปลายทางของ Alpine Route จากการศึกษาข้อมูลก่อนมาบอกว่าเบนโตะ และข้าวปั้นที่นี่อร่อยมาก เราก็จัดมา 2 กล่อง กล่องนึงเป็น ข้าวปั้นหน้าปลาแซลมอน ส่วนอีก 1 กล่อง น้องเนยเลือกไว้เป็นข้าวกล่องสไตล์ญี่ปุ่น ที่เป็น Combination set หลายๆอย่างในกล่องเดียว น่ากินดี ตอนแรกจะเอาข้าวปั้นหน้าหน่อไม้ตามโพยที่แนะนำ แต่คนขายบอกไม่มี ช่วงนี้ไม่มีไม้ไผ่ ต้องรอตอนต้นปี

ตัวอักษร Welcome เป็นสายน้ำ

มาถึงสถานีที่ Kanasawa พบร้านสะดวกซื้อร้านใหญ่มากก... เดินเข้าไป จัด Bento มาเพิ่มอีก เพื่อให้พอกับครอบครัว 4 คน แถมน้ำชานม Kirin ของโปรด พร้อมจัดเบียร์ Sapporo เย็นๆมา 1 กระป๋อง ออกมาด้านหน้าของสถานี Kanasawa ที่จัดไว้อย่างสวยงาม มีที่นั่งเล่น ที่วิ่งเล่นให้เด็กๆได้วิ่งเล่น อากาศก็เย็นสบาย ถือเป็น Outdoor Dinner ที่เยี่ยมอีกมื้อนึงเลย ประหยัดด้วย

ทางเข้า Pongyi ตอนเช้า

หลังจากอิ่มหนำสำราญเรียบร้อยแล้ว ก็เดินต่อไปยังที่พักของวันนี้ คืนนี้ป่ะป๊าจัดให้นอน Ryokan ที่ Guesthouse อายุ 100 กว่าปี ที่เจ้าของเล่าว่าแต่ก่อนที่นี่เป็นร้านตัดชุดกิโมโน มีห้องที่เคยเป็นห้องเย็บกิโมโนอยู่ด้านล่าง ตอนนี้ดัดแปลงเป็นที่พักแบบ Dome คือเป็นเตียงสองชั้น นอนรวมๆกันได้ ราวๆ 4-5 คน ตรงนี้ราคาถูกใจนักเดินทางเลยทีเดียว ส่วนข้างบนนั้นมีแค่ 2 ห้อง เป็นห้องนอนแขกแบบห้องส่วนตัว 1 ห้อง และเป็นห้องพักของเจ้าของอีก 1 ห้องเท่านั้น

ที่นี่ชื่อ Pongyi Guesthouse ได้ข่าวว่าป่ะป๊าได้ชื่อมาจาก Trip Adviser ที่ได้รับคำชื่นชมสูงมาก และก็ไม่ผิดหวัง เมื่อประเมินความคุ้มค่า หรือ value of money แล้ว ที่นี่เป็นที่นึงที่ดีที่สุดของทริปนี้เลยจริงๆ นอนหลับสบายที่สุดด้วย ที่นอนนอนสบายจริงๆ ขอบอก แฝดขนมปัง-เนย นอนเบาะ 2 เบาะ ส่วนหม่าม๊าอย่างเรานอนตรงกลางระหว่างเบาะ ไปๆมาๆ เช้าขึ้นนอนอยู่ในร่องของเบาะ แต่ก็ยังรู้สึกว่านอนสบายจริงๆ ลืมบอกไปว่าที่นี่เป็นแบบห้องน้ำรวม ด้วย แต่ก็ไม่ลำบากอย่างที่คิด เพราะมีแขกไม่มาก ไม่ต้องแย่งกันเข้าห้องน้ำ

นกกระดาษ

ตอนสองทุ่มก็มีกิจกรรมสังสรรพ์ระหว่างแขกที่มาพัก ใครมาร่วมก็ได้ เป็นกิจกรรมสอนพับนกกระดาษสไตร์ญี่ปุ่น ให้เขียนคำอธิฐานก่อนพับ แล้วก็พับตามคำสอนของ Yu คนดูแลบ้าน พับไม่ยากแต่กระดาษมันเล็ก นั่งพับกับเพื่อร่วมบ้านมีคนญี่ปุ่น คนฮอลแลนด์ และ ก็ไทยแลนด์ พับเสร็จก็ถ่ายรูปร่วมกันเห็นบอกจะรวบรวมเอาไปมอบให้องค์กรเพื่อสันติภาพ เป็นกิจกรรมที่ดีที่ทำให้แขกพบพูดจากัน