Sunday, October 6, 2013

** Japan 2013 ** Day 9 : Ginza --- Narita -- Bangkok

โฆษณาในทางเดิน Subway แปลกตาดี
วันสุดท้ายของทริป เป็นการช็อปปิ้ง เก็บตกของที่ยังขาดอยู่ เป้าหมยคือ ที่ Ginza แวะซื้อของฝาก Bao Bao และ แวะร้าน Muji ขนาดใหญ่

Ginza วันอาทิตย์
จาก Ueno เดินทางโดยรถไฟ ไม่นานก็ถึงสถานี Ginza วันอาทิตย์ ถนนปิดให้แต่คนเดิน จากสถานี แวะห้าง Matsuya ก่อน เพื่อแวะดู ISSEY Bao Bao จากนั้นก็ไปต่อที่ MUJI Ginza


Muji@Ginza
ร้าน Muji เป็นร้านขายของจิปาถะ ทั้งเสื้อผ้าของเครื่องใช้ ที่ออกแบบแสดงถึงความเป็นญี่ปุ่นมากๆ

ตัวอย่างเช่น เครื่องเขียน ปากกาจากร้าน Muji ก็มีคนนิยมซื้อเป็นของฝากจากญี่ปุ่นไม่ใช่น้อย

ร้าน Muji มีกระจายอยู่ทุกเมืองในญี่ปุ่น แต่ร้านนี้มีขนาดใหญ่พิเศษ มีพื้นที่ขนาด 3 ชั้น

การเดินทางค่อนข้างยากหน่อยหากเดินมาจาก Ginza  ความจริงร้านนี้จะอยู่ใกล้สถานี Yurakucho มากกว่า แต่ก็สามารถเดินมาจากสถานี Ginza ได้

Muji
Muji ย่อมาจาก Mujirushi Ryohin ซึ่งแปลว่า ของคุณภาพดีแต่ไม่มียี่ห้อ  สินค้าของมูจิจึงไม่ปรากฏโลโก จุดเดินที่เห็นได้ชัดคือ เรื่องการออกแบบสินค้า ที่ดูเรียบง่าย เสื้อผ้าก็เรียบๆ ดูดี เน้นสีพวกขาว เทา เบจ

ร้านนี้น่าจะมีสินค้าทุกอย่างที่ผลิตโดยมูจิ ทั้งเสื้อผ้า ของใช้ในบ้าน อาหาร เฟอร์นิเจอร์ เครื่องเขียน ของเด็กเล่น เครื่องใช้ไฟฟ้า ของเดินทาง ถ้าจะเดินดูของทั้งหมดก็คงใช้เวลาหลายชั่วโมง

มุมเด็กแทรกตัวระหว่างทางเดิน
เวลา 1-2 ชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว ข้างๆร้าน Muji ก็มีร้าน Loft ขนาดใหญ่ติดกัน มีเวลาเดินโฉบดูของแปบเดียวก็ต้องรีบกลับไปที่ Ueno แล้ว

Liner Ticket

จาก Ueno เลือกใช้ Keisei Liner เนื่องจากใช้เวลาน้อยกว่า ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็ถึง Narita  เป็นอันจบทริปเดินทางในครั้งนี้ จนกว่าจะพบกันใหม่ในทริปหน้า

At Narita Airport

ข้อมูลเพิ่มเติม

Café & Meal Muji Yarakucho 無印良品 有樂町
Marunouchi, Chiyoda-ku, Tokyo Japan 3-8-3 Tel: + 03-5208-8241
How to get there: From JR Yurakucho Sta. Kyobashi Exit past Tokyo Kotsu, Kaikan (2-3 min). From Yurakucho Subway, exit A9 (1 min) or Ginza-Itchome Tokyo Metro Station (10 min)
Opening Hours: 10am – 9pm.


Saturday, October 5, 2013

** Japan 2013 ** Day 8 : ตอน 2 Kamikochi-Matsumoto- Tokyo วันเดียวเที่ยว 3 เมือง


Shimashima Station
การเดินทางกลับเริ่มออกจาก Kamikochi ช่วงสายๆ เพื่อไปขึ้นรถบัสเพื่อไปลงยังเมือง Shimashima ซึ่งเป็นสถานีรถไฟเพื่อเดินทางต่อไปยังเมือง Matsumoto แล้วนั่งรถบัสกลับไปโตเกียว 



Shimashima Station
สภาพเมืองที่ Shimashima Station ยังเป็นชานเมือง มีชาวบ้านเอาผลิตภัณฑ์เกษตรมาวางขายหลายอย่าง ที่น่าสนใจเห็นเป็นแอปเปิ้ล ลูกใหญ่น่ากิน ของส่วนใหญ่ราคาถูกว่าในเมืองมาก


Train to Matsumoto
รถไฟเข้าเมือง Matsumoto เป็นรถไฟธรรมดา ที่จอดตลอดสาย ได้ดูวิวบ้านเมืองตลอดทาง บางสถานีเป็นเพียงเพิงเล็กๆ ไม่ได้มีขนาดใหญ่โตเหมือนในเมือง บางช่วงผ่านไปในเวลาเลิกเรียน เด็กๆ ตัวเล็กๆ ก็ถือกระเป๋าเดินทางกลับบ้านเอง


Matsumoto Art Museum
เมื่อมาถึง Matsumoto ปรากฏว่า ที่นั่งรถบัสเพื่อเข้าไปยังโตเกียวเที่ยวที่ต้องการเต็ม ต้องรอรถเที่ยวถัดไป ซึ่งเที่ยวล่าสุดที่ได้คือ ออกจาก Matsumoto เกือบ 2 ทุ่ม เลยมีเวลาเดินเล่นในเมืองตลอดบ่ายจนค่ำ จุดแรกที่เดินไปเที่ยวชมก็คือ Matsumoto Museum of Art

แรกเดินเข้าก็สะดุดตากับงานศิลปสีสดใส ที่วางแสดงไว้ตั้งแต่ทางเข้า งานแสดงเป็นของศิลปินชื่อดังของญี่ปุ่น Yayoi Kusama

Vendingr Machine @ Matsumoto Mesuem
ความจริงงานแสดงใน Museum มีของหลายศิลปิน แต่ที่โดดเด่นคงเป็นของ Yayoi ขนาดตู้ Vending Machine ยังทำเป็นแนวงานศิลป์ของ Yayoi เลย ข้างในมี Book Store ที่ขายของที่ระลึกน่าซื้อหลายชิ้น


Matsumoto Castle at night

จาก Museum เดินมาอีกไม่ไกล (ถ้าไม่หลง) ก็จะถึง Matsumoto Castle

ตัวปราสาทปิดตั้งแต่ 17.00 น แล้ว แต่ก็ยังคงมีคนเดินเข้าไปชมตัวปราสาทภายนอกอีกจำนวนไม่น้อย พอเริ่มมืด ก็มีการเปิดไฟส่องไปยังปราสาท สวยงามไปอีกแบบ ตัวปราสาทสีดำเป็นที่มาของอีกชื่อคือ ปราสาทกาดำ(Crow Castle)

Matsumoto Bus Station
หลังจากนั้นก็เป็นการเดินทางตลอด จาก Matsumoto เดินทางไป Shinjuku แล้วต่อรถไฟไป Ueno

คืนนี้ได้ที่พักอยู่แถว Ueno  กว่าจะถึงที่พักก็ทุลักทุเลพอสมควร เนื่องจากฝนตกตอนค่ำด้วย

Ryokan Sawanoya
ที่พักคืนนี้เป็น Ryokan นอนบนเสื่อทาตามิ ที่พัก อยู่ไม่ไกลจากสถานี Ueno มาก
ที่พักสะอาด ห้องน้ำมีอ่างให้แช่น้ำร้อนขนาดใหญ่ มองเห็นสวนญี่ปุ่นเล็กๆ ด้านข้างๆ

การเดินทาง


Kamikochi Bus Station
Shimashima Station

Ticket Set
ตั๋วซื้อ เป็น Ticket set ที่ Kamikochi bus station

Kamikochi - Shimashima --- BUS
Shimashima - Matsumoto -- Train -- 2450Y
Matsumoto - Tokyo -- Bus --- 3400Y

Bus Time Table:


Bus Fare:

ที่พัก

Ryokan Sawanoya -- 1400Y
http://www.sawanoya.com/







** Japan 2013 ** Day 8 : ตอน 1 Kamikochi


คามิโคชิยามเช้า
คามิโคชิเป็นอุทยานแห่งชาติของญี่ปุ่น ในเขตพื้นที่นากาโน ที่ได้รับการปกป้องรักษาเป็นอย่างดี การเดินทางเข้ามาในอุทยานต้องใช้รถสาธารณะเท่านั้น เปิดเฉพาะช่วงกลางเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤศจิกายนเท่านั้น

เส้นทางเดินสู่สระ Myojin
กิจกรรมในอุทยานคือการเดินป่า หรือ การเดินไต่เขา จะมีนักท่องเที่ยวที่นิยมกิจกรรม Outing จำนวนมากเดินทางมาพักค้างแรม กางเต็นนอนเป็นจำนวนมาก

มีเส้นทางเดินป่าในพื้นที่หลายเส้นทาง ทั้งแบบมืออาชีพและแบบสมัครเล่น

เส้นทางที่คนนิยมเดินมีสองเส้นทางคือ ทางเดินไปสระ Myojin และ ทางเดินไปสระ Taisho ทั้งสองเส้นทางใช้เวลาเดินจากสะพาน Kappa ไปกลับประมาณ 1.5 - 2 ชั่วโมง คนที่ไม่ได้มาค้างคืนก็สามารถเดินชมธรรมชาติตามเส้นทางนี้ได้

เช้าวันนี้ป่ะป๊า ตื่นตั้งแต่ยังไม่หกโมงเช้า แยกตัวไปเดินเก็บภาพที่สระ Myojin บางส่วนก่อน บอกว่าจะกลับมาให้ทันอาหารเช้าที่เราจองไว้ตอน 8.30 แล้วค่อยเดินกันไปต่อที่สระ Taisho

นักเดินป่ามืออาชีพ
เมื่อมาถึงสะพาน Kappa ปรากฏว่ามีนักเดินป่ามาเตรียมพร้อมกันแล้วเป็นจำนวนมาก คาดว่าคงเป็นพวกที่กางเต็นนอนเมื่อคืนแน่ เพราะยังเช้าเกินไปสำหรับรถบัสคันแรกของวันที่จะมาถึง นักเดินป่าส่วนใหญ่จะแบกเป้เครื่องนอน อุปกรณ์เดินป่าครบครัน

เส้นทางเดินไปสระ Myojin คือจากสะพานหันทิศสถานีรถบัส เดินเลี้ยวซ้ายเดินเรียบแม่น้ำอะซูสะไป

Myojinkan จุดแยกไปยัง Myojin Pond
ใช้เวลาเดินราว30 นาทีก็จะถึงจุดพัก ที่นี่มีนักเดินทางที่ค้างแรมกางเต้นนอนแถวนั้นนั่งกินอาหารเช้า พักเก็บอุปกรณ์ ล้างหน้าเช็ดตัว อยู่เป็นกลุ่มใหญ่ ตอนแรกคิดว่าที่นี่เป็นจุดให้ข้อมูลนักท่องเที่ยว แต่พอกลับมาอ่านข้อมูลปรากฏว่าตึกนี่เป็นโรงแรมที่พักในป่า ชือ Myojinkan

สะพาน Myojin
จากโรงแรม Myojinkan เดินมาอีกไม่ไกลก็จะถึงสะพานแขวนข้ามแม่น้ำอีกแห่ง ชื่อสะพาน Myojin ตามชื่อสระที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ช่วงเวลาเช้าเงียบสงบมาก ไม่มีคนเลย

ศาล Hotaka
ก่อนทางเข้าสระ Myojin มีศาลเจ้าตั้งอยู่ด้านข้างทางเข้า ศาลที่บูชาเทพเจ้าตามความเชื่อที่ว่าคามิโคชิเป็นสถานที่พระเจ้าสถิต พระเจ้าลงมา ศาลแห่งนี้เป็นสถานที่ที่เจ้าเมืองในอดีตเดินทางมาเคารพบูชาเทพเจ้า ทางเข้าต้องซื้อตั๋ว 300Y คนขายเหมือนเป็นพระที่ดูแลศาลเจ้า

สระ Myojin
ที่ป้ายด้านหน้าสระบอกความหมายของสระ Myojin ว่าหมายถึง สระกระจก พอเดินเข้ามาในบริเวณสระแล้วก็จะเห็นว่าความหมายนั้นไม่ได้กล่าวเกินจริงเลย

Myojin -- สระกระจก
น้ำในสระที่ดูแล้วคงไม่ลึกมาก แต่น้ำใสมาก ยิ่งบริเวณรอบสระ ต้นไม้เริ่มเปลี่ยนสี จะเห็นเงาที่สะท้อนสีต้นไม้เขียว เหลือง แดงสลับกันไปเหมือนภาพวาดเลย

ภาพมุมกว้าง
บริเวณสระมีทางเดินโดยรอบ เป็นทางเดินตามธรรมชาติ บางช่วงเป็นพื้นที่แฉะเลาะไปตามโขดหินและรากไม้

ใบไม้เปลี่ยนสี
ช่วงเวลาช่วงเช้า น่าจะเป็นเวลาที่ดีที่สุดที่เยี่ยมชมสระนี้ เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังเดินทางมากันไม่ถึง และที่สำคัญ แสงยามเช้าที่ไม่กระด้างเกินไป ทำให้สระน้ำเปลี่ยนสภาพกลายเป็นกระจกเงาผืนใหญ่ สะท้อนภูเขา ต้นไม้ หลากสีเหมือนภาพวาดขนาดใหญ่

ทางเดิน
จากสระ Myojin จะเดินเลาะแม่น้ำกลับไปยังโรงแรม ทางเดินช่วงนี้มีการทำทางไว้เป็นอย่างดี เส้นทางโรยกรวด หรือ ไม่ก็เป็นทางไม้พาดกลมกลืนกับไปกับธรรมชาติ

ลำธาร
บางช่วงทางเดินผ่านลำธารน้ำที่ไหลมาจากภูเขา น้ำที่นี่ใสมาก มองเห็นหินที่อยู่ให้พื้นลำธารอย่างชัดเจน

ช่วงเดินย้อนกลับไปยังโรงแรมใช้เวลาสั้นกว่าขาเดินทางมา ส่วนหนึ่งเพราะเส้นทางมีคนเดินน้อยกว่า และทางเดินได้ง่ายกว่า

เส้นทางเดินย้อนมาถึงสะพาน Kappa  สามารถเดินอีกฟากของแม่น้าได้ (ฝั่งเดียวกับ สระ Myojin ) ทางเดินฝั่งนี้ดีกว่า มีวิวทิวทัศน์ ต้นไม้ และทางเดินที่น่าสนใจกว่า



ทุ่งหญ้า

หลังจากอาหารเช้าก็เดินกันไปต่อที่สระ Taisho
ทางเดินช่วงนี้ก็เดินได้สบาย เป็นทางราบ แต่มีนักท่องเที่ยวเริ่มเข้ามามากขึ้น โดยเฉพาะกรุ๊ปทัวร์

ทางเดินไป สระ Taisho เป็นทางเดินเรียบแม่น้ำอะซูซะ บางช่วงเป็นหินโรยทาง บางช่วงเป็นสะพานไม้ที่พาดผ่านหนอง บึง บางช่วงเป็นทางเดินลัดเลาะเข้าไปในฝั่งผ่านทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ ที่เห็นใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี  ทำให้การเดินเพลินไปกับบรรยากาศที่เปลี่ยนไปตลอด


สระทาชิโระ
ก่อนถึงสระ Taisho จะผ่านสระน้ำเล็กๆอีกแห่งเรียกว่า สระ Tashiro ชื่อคล้ายๆกัน เป็นลานหิน ที่เกิดจากการไหลลงมาจากภูเขาในช่วงหน้าหนาว ที่จะมีหิมะปกคลุมไปทั่วบริเวณ  สระน้ำมีขนาดไม่ใหญ่มาก  คนส่วนใหญ่จะเดินเลยไปยังสระ Taisho ที่มีขนาดใหญ่มากกว่า

สระไทโช๊ะ
จากสระ Tashiro ใชเเวลาเดินอีกสักพักก็ถึงสระ Taisho  ความจริงมันก็คือส่วนหนึงของแม่น้ำ แต่เว้าเข้ามาเหมือสระน้ำ ที่นี่จะค่อนข้างพลุกพล่านจากนักท่องเที่ยว เนื่องจากมีจุดขึ้นลงรถบัส ที่เข้ามาถึงได้โดยไม่ต้องเดินมาก็ได้ กรุ๊ปทัวร์หรือคนที่เวลาน้อย ลงรถเมล์ที่ป้ายนี้ได้ (ป้าย Taishiike)

Weston Monument
ระหว่างเดินกลับจะผ่าน Weston Monument จุดแวะจุดนึงของเส้นทาง

วอร์ลเทอร์ เว็สตัน เป็นบาทหลวงชาวอังกฤษที่มาเผยแพร่ศาสนาในญี่ปุ่น เป็นผู้บุกเบิกการปีนเขาในเขตคามิโคชิให้ชาวญี่ปุ่น และเป็นผู้ทำให้คามิโคชิเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก รวมทั้งเป็นผู้ให้สมญาเทือกเขาในย่านนี้ว่า Japan Alps เป็นอีกจุดแลนด์มาร์คของเส้นทางเดิน  Monument เป็นแผ่นเหล็กหล่อรูปเหมือนและจารึกคำบรรยายฝังลงบนแผ่นหิน ตรงจุดที่เว็สตันเคยมานั่งพัก

อนุสรน์เว็สตันอยู่ริมแม่น้าด้านซ้ายเมื่อเดินย้อนจากสระ Taisho กลับไปยังสะพาน Kappa
การเดินเท้าไปกลับสระ Taisho ใช้เวลาราว 2-3 ชั่วโมง

หลังจากนั้นก็กลับมาเก็บกระเป๋าเตรียมตัวเดินทางกลับโตเกียว

ข้อมูลเพิ่มเติม

Kamikochi: http://www.kamikochi.or.jp/english/
Trekking Couses: http://www.kamikochi.org/useful-information/courses.html
Trekking at Kamikochi Blog: http://japanhike.wordpress.com/tag/kamikochi/



ตั๋วเที่ยว

ตั๋วสระ Myojin 300Y

Friday, October 4, 2013

** Japan 2013 ** Day 7 : ตอน 2 จากเมืองโบราณยอดนิยม Takayama มาที่ Kamikochi National Park

คามิโคชิ
การเดินทางเที่ยวญี่ปุ่นกับ ขนมปัง-เนย ปีนี้ กำลังจะถึงช่วงสุดท้ายซะแล้ว กำลังสนุกเข้าที่กับการผจญภัย เด็กๆเริ่มเข้าที่แล้วกับการเดินระยะทางยาวๆ ไกลๆ ระหว่างเที่ยว ก็พอดีใกล้วันกลับบ้าน

@Hirayu Onsen
เริ่มที่ค่าใช้จ่ายในการนั่งรถทัวร์จาก Takayama – Kamikochi นั้น คนละ 1530 เยน หลังจากออกจากสถานี Takayama มาด้วยรถทัวร์ เพื่อเข้าสู่ Kamikochi นั้น ระหว่างทางก่อนถึง รถแวะพักรถ และรับคนเพิ่ม ที่สถานี Hirayu Onsen

Foot Onsen
ที่สถานีนี้ เป็นสถานี Junction เพื่อต่อไปยัง Matsumoto หรือ จะไปคามิโคชิ ที่เราจะเดินทางต่อไป หรือจะพักนอนเรียวกังที่นี่ก็ได้ จุดนี้เป็นที่พักท่องเที่ยวแช่น้ำพุร้อน ดังนั้นที่สถานีก็จะมีน้ำแร่ให้ล้างหน้าตา และมีใช้แช่เท้าออนเซ็นฟรี ระหว่างนั่งรอต่อรถเที่ยวต่อไป

ซาราเปาเนื้อฮิดะ
ก่อนไปก็แวะเติมพลังต่อด้วยซาราเปาเนื้อฮิดะ ราคา 500Y ซาราเปานึ่งร้อนมากๆ อร่อยดี

วิวจากบนรถ
ก่อนเดินทางต่ออีกหน่อยก็ถึงสถานีปลายทาง Kamikochi ก็พากันเดินเพื่อไปยังที่พักสำหรับคืนนี้กัน การเดินทางเข้าสู่คามิโคชิ ต้องใช้รถโดยสารเท่านั้น ผ่านอุโมงขนาดยาวก่อนเข้าสู่พื้นที่ของอุทยาน

คามิโคชิเป็นอุทยานแห่งชาติของญึ่ปุ่น เป็นภูเขาในเทือกเขาเดียวกับ Japan Alpine ที่เราเพิ่งเดินทางผ่านมาเมื่อไม่กี่วันก่อน เปิดให้เข้าได้เฉพาะเดิือน เมษายน - กลางเดือนพฤศจิกายนเท่านั้น

ทางเดินเข้าคามิโคชิ
ก่อนอื่นต้องย้ำอีกรอบว่า การเดินทางของแม่ๆลูกๆ ไม่ได้สนใจจะหา ข้อมูลการเดินทางหรือสถานที่ท่องเที่ยวในแต่ละครั้ง ที่ป่ะป๊าเตรียมมาเลย


สะพาน Kappa ข้ามแม่น้ำอะซูสะ
พอเดินทางมาถึงที่แต่ละที่จริงๆ ก็เลยตื่นเต้นกับความสวยงาม และความแปลกใหม่ ซะเป็นส่วนใหญ่ มาที่นี่ก็เช่นกัน เดินๆเหมือนเดินเข้าป่ามาจากสถานีบัส อยู่ๆก็โผล่มาเห็นวิว สะพานแขวน ลำธารใสแจ๋ว บวกวิวภูเขาด้านหลังสวยอย่างกับภาพวาด เล่นเอาอึ้ง กันทั้งแม่ ทั้งลูก แถมเป็นช่วงเย็นๆราวๆ 5 โมงเย็น ที่แสงแดดกำลังสวย อากาศเย็นจัด ถ่ายกับกล้องคุณภาพไหนๆก็ออกมาสวยมากกก เลยทำให้ทุกคนเพลิดเพลินกับการถ่ายรูป เก็บภาพรอบๆบริเวณกันอย่างสนุกสนาน ถือว่าเป็นประทับใจแรกสำหรับ Kamikochi

คามิโคชิ
อากาศช่วงเย็นในคามิโคชิ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พอแดดหายไปอากาศหนาวเย็นมาแทน ยอดเขาที่ยังเห็นชัดเจนเมื่อกี้นี้ ปรากฏว่ามีเมฆหมอกลงมาปกคลุมอย่างรวดเร็ว อากาศน่าจะเย็นลงต่ำกว่า 10 องศาได้ นอกจากแดดที่หายไป นักท่องเที่ยวก็หายไปอย่างรวดเร็วเนื่องจากรถเที่ยวสุดท้ายได้ออกไปแล้ว คงเหลือแต่นักท่องเที่ยวที่มาค้างแรมในคามิโคชิเท่านั้น

เดินข้ามสะพานไปที่พัก
จากนั้นก็เดินเข้าสู่ที่พักของเราคืนนี้ คือ Nashi-Itoya Sanso ที่เป็นโรงแรมแบบเรียวกัง มีออนเซ็นให้แช่ และบริการพร้อมทั้งอาหารเย็น ละอาหารเช้า สำหรับที่นี่ ทั้งการบริการ สถานที่ และคุณภาพและรสชาติอาหาร อยากติดดาว โรงแรมนี้ 5 ดาว ไปเลย เพราะ ทุกอย่างที่ว่านั้น ดีที่สุดของทริปนี้เลยทีเดียว

สนามเด็กเล่น
ก่อนถึงเวลาอาหาร ก็ออกไปสำรวจรอบๆอีกรอบ พร้อมบรรยากาศ เชิญชวนให้ไปสอย เหล้าสาเก มาแก้หนาวซักหน่อย คู่แฝดขนมปัง-เนย ดูจะมีความสุข สนุกสนานเป็นพิเศษ เพราะ น้ำ หิน ทราย กับเด็ก เป็นของคู่กันจริงๆ เห็นน้ำ เห็นทรายที่ไหนเป็นต้องโผเข้าหาทันที เล่นกันจนหมดแสง ใกล้เวลาอาหาร ถึงยอมเลิกเล่น กลับขึ้นมาเตรียมชิมอาหารเย็นของวันนี้กัน
Dinner
อาหารมื้อนี้ก็สุดแสนจะ ยอดเยี่ยม ทั้งรูปลักษณ์ ความหลากหลาย รสชาติ รวมถึงปริมาณ ขนาดที่ว่าจองอาหารมาสำหรับผู้ใหญ่ 2 ที่เท่านั้น ตอนเวลากินจริงๆ แถมเด็กอีก 2 คน ยังรู้สึกว่ามากมาย อาหารมื้อนี้ มีทั้ง เนื้อย่างนุ่มๆ ปลาจากน้ำตกย่างเกลือ ปูตัวเล็กๆจากแม่น้ำ ปลาดิบสดๆ และอะไรอีกแยะ ในมื้อเดียว ข้าวสวยญี่ปุ่นร้อนๆที่เติมได้ไม่อั้น เหมือนเดิม ทำให้อาหารมื้อนี้เป็นอาหารที่ Perfect ที่สุดของทริปนี้อีกเช่นกัน

กระท่อมในป่าคืนนี้
นักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักที่นี่ ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ คือ เป็นฝรั่ง ซะส่วนใหญ่ คุยกับเจ้าหน้าที่ รร. ได้ความว่า ครอบครัวของเรา ถือเป็น ครอบครัวคนไทย ครอบครัวแรกของปีนี้ ที่เข้ามาพักที่นี่ อาจเป็นเพราะเป็นช่วงเริ่มต้นของฤดูใบไม้ร่วง คือต้นเดือนตุลาคม คนไทยส่วนใหญ่อาจมาช่วงกลาง ถึงปลายเดือน เพราะรอเด็กๆปิดเทอมเรียบร้อยก่อน อีกอย่างคือ ตนส่วนใหญ่นิยมมาที่นี่ช่วง Fall Season นี่แหละ เพราะสวยที่สุด ส่วนหน้าหนาวที่นี่เค้าปิด คงเพราะหนาวมากไป

ช้อปต่อในโรงแรม
อิ่มกันเต็มที่ ก็จัดแจงเปลี่ยนเป็นยูกาตะ แล้วคู่พ่อ-ลูกชาย และ คู่แม่-ลูกหญิง ก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำ แช่ออนเซ็น กันเพื่อย่อยอาหาร สบายเนื้อตัวอย่างบอกไม่ถูก เสร็จแล้วมานั่งชิบชาเขียวร้อนๆ ด้านนอกซักหน่อยก่อนจบวันอันแสนสุขอีกหนึ่งวันที่ Kamikochi นอนหลับเก็บแรงไว้ก่อน ตื่นเช้าพรุ่งนี้ไปเดินเที่ยวรอบอุทยานกัน

การเดินทาง

Takayama -- Hirayu Onsen
Price: 1530Y
ตารางเดินรถ http://www.nouhibus.co.jp/english/
Hirayu Onsen -- Kamikochi
ซื้อตั๋วที่สถานี Hirayu Onsen เลย
Price: 1130



ที่พัก

Nishi-Itoya
โรงแรม มีห้องทั้งแบบญี่ปุ่นและตะวันตก
Price: 8000Y ต่อหัว รวมอาหารเช้าเย็น Wifi มี Onsen ห้องน้ำรวม
ติดต่อทางอีเมล์ที่เว็บโรงแรม
http://www.nishiitoya.com/ns-eng/eng-home/eng-index.html
อ้างอิงเว็บนี้ มี Discount
http://www.kamikochi.org/


Nishi-Itoya
ห้องนอน
โถงทางเดิน
มื้อเย็น

ข้อมูลเพิ่มเติม

Kamikochi Pass
http://www.go-nagano.net/blog/?p=2698
BUS SCHEDULE:
http://www.nouhibus.co.jp/english/